สวัสดีครับทุกคน วันนี้แก้วอยู่กับ หูฟังตัวใหม่ล่าสุดจากทาง Huawei นั่นก็คือ HUAWEI FreeBuds 4 นั่นเองครับ ตัวนี้มีฟีเจอร์เด็ดๆ ไม่แพ้กับรุ่น Pro เลย แต่ว่าเป็นลักษณะแบบ Earphones สวมเข้าไป แต่คุณภาพเสียง ไม่ธรรมดาครับ
DESIGN : งานออกแบบ
ในเรื่องของงานออกแบบ ของ หูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้ จะให้ความรู้สึกที่ดู Premium แล้วก็มีลุคที่ดูแอบจะ Sport หน่อยๆ ด้วยสีของตัว Case ที่เป็นแบบ เทาเข้ม แบบ Metallic แต่ตัวหูฟังจะเป็นแบบ สีเทาแบบเงา เล่นแสง
เวลาใส่อยู่บนหู ก็ให้ความรู้สึกที่ดูเท่ดี ช่วยเสริม Look ให้กับคนใส่ได้ไม่น้อย แอดมินใส่แล้วดูดีขึ้น 50% ครับ หยอกๆ แล้วก็เวลาทำหล่น ( อันนี้หล่นจริง ) สามารถมองหาได้ไม่ยากครับ
น้ำหนักตัวหูฟัง รวมตัว Case เนี่ย แค่ 46.2g เท่านั้นเอง ในส่วนน้ำหนักหูฟังแต่ละข้าง แค่ 4.1g เอง
ในส่วนของแม่เหล็กดูดตัวหูฟังให้ติดกับเคสเนี่ย ก็ไม่ได้แรงมาก เหมือนตัว Huawei Freebuds 4i แต่เพียงพอที่จะ Hold หูฟังให้ติดกับเคสได้ แม้ตอนทำตก
CONNECTIVITY : การเชื่อมต่อ
มาเริ่มกันตั้งแต่เรื่องของการเชื่อมต่อกันเลยครับ บริเวณด้านข้างของ Case เนี่ย จะมี ปุ่ม Power อยู่นะครับ ในการใช้งานครั้งแรก ให้เรากดเอาไว้ประมาณ 5 วินาที เพื่อเข้าสู่ Paring Mode ครับ
บริเวณด้านหน้าของตัวเคส จะมี ไฟบอกสถานะ หรือ Light Indicator อยู่ ถ้าเราเคย Pair กับอุปกรณ์แล้ว แค่กดประมาณ 1-2 วินาที หูฟังก็จะเปิดใช้งานแล้ว ไฟสถานะจะเป็นสีเขียว แต่ถ้าระหว่างการเชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่นั้น ไฟสถานะจะเป็น สีขาว กระพริบต่อเนื่อง
ถ้าเราใช้อุปกรณ์ของทาง Huawei เนี่ย จะมี เป็นเหมือน Wizard ที่ช่วยในการเชื่อมต่อเด้งขึ้นมา ใช้งานง่ายมาก เช็คไฟที่ตัวเคส เช็คไฟที่หูฟัง ผ่าน Interface ตัวนี้ได้ง่ายมากๆ แต่ถ้าไปใช้กับอุปกณ์ตัวอื่น จะต้องเข้ามาดูใน Connection Menu นะครับ แล้ว
การเชื่อมต่อก็เสถียรมากๆ ด้วย Bluetooth 5.2 แทบไม่มีดีเลย์
FEATURES : ฟีเจอร์การใช้งาน
Driver ของหูฟังตัวนี้เนี่ย ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจเลย ขนาด Driver แต่ละข้างอยู่ที่ 14.3mm ซึ่งถือว่าใหญ่พอตัวเลย ความกว้างของย่านเสียงสูงสุด 40kHz ให้ Sound Stage และ Detail ของเสียงที่ดีใช้ได้เลย ( จะดีสุดๆ ใน Mode Noise Cancel ด้วยนะครับ )
สามารถที่จะปรับแต่ง คุณภาพเสียง เลือก Codec เปิด-ปิด Noise Cancelling ได้ที่ Setting บริเวณตรงนี้ครับ และแน่นอนว่า ถ้าใช้กับอุปกณ์ Huawei เราจะสามารถ กดค้นหา My Earphones ได้ด้วย กรณีที่หาไม่เจอนะครับ
ตัว Default Equalizer ก็จะมีมาให้ด้วยกัน 3 ลักษณะ คือแบบ Default ทั่วไป แบบเน้น Bass และ Tenor ( แบบดนตรี Classic เน้นในส่วนของเสียง Vocal ให้ชัดเจน ) และ รองรับ Codec เสียงแบบ ANC ครับ เหมือนจะไม่มี AptX นะครับ
อีก Features ที่เป็น Highlight มากๆ ในรุ่นนี้นะครับ คือเรื่องของการใช้งาน Gestures ครับ หรือ Shortcut การสั่งงานด้วยท่าทาง ต่างๆ ในการแตะหูฟังนั่นเอง มีรายละเอียด Default Setting ดังนี้ครับ
แตะสองครั้ง
รับสาย / วางสาย
เปลี่ยนเพลง
Voice Assistant
เลื่อนขึ้น / ลง
เพิ่ม | ลด เสียง
แตะค้าง
เปิด / ปิด ระบบตัดเสียงรบกวน
ตัดสายโทรเข้า
ทาง Huawei เปิดโอกาสให้เราได้ Custom Gestures ได้ตามที่เราต้องการ อันนี้แก้วว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะบางทีเราใช้ หูฟังรุ่นอื่นมาจนชินแล้ว ต้องมาปรับพฤติกรรมใหม่ มันค่อนข้างลำบาก การมีส่วนนี้มาให้ ช่วยให้เราใช้งานได้สะดวก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใช้ครับ
อีกหนึ่ง ฟีเจอร์ Highlight ของรุ่นนี้ครับ Open-fit Active Noise Cancellation 2.0 โดยปกติแล้วพวก Earphones ที่ไม่ได้เป็นแบบ In-ear ในเรื่องของความเงียบในการตัดเสียงนั้น จะไม่ได้เงียบมาก แต่กับตัวนี้แล้ว ต้องยอมจริงๆ เงียบสุด เสียงแอร์ เสียงรถ คือ หายไปเลย ตัดเสียงออกไปได้ 25db ทั้งที่ ไม่ใช่หูฟัง In-ear ด้วยซ้ำ อันนี้ทำได้ดีจริงๆ
BATTERY LIFE : ระยะเวลาการใช้งาน
ในส่วนของ Battery Life ของ HUAWEI FreeBuds 4 ในหูฟังแต่ละข้าง มี Battery มาให้ 30 mAh และที่ตัว Case 410 mAh เอาชาร์จใส่ Case ไว้ 15 นาที ฟังต่อได้ 2.5 ชั่วโมง
เปิดฟังเพลงต่อเนื่อง 4 ชม. (ปิดโหมดเสียง ANC )
เปิดฟังเพลงต่อเนื่อง 2.5 ชม. (เมื่อเปิด โหมดเสียง ANC)
เปิดฟังเพลงต่อเนื่อง รวมกับชาร์จเคส 22 ชม. (ปิดโหมดเสียง ANC)
เปิดฟังเพลงต่อเนื่อง รวมกับชาร์จเคส 14 ชม. (เมื่อเปิด โหมดเสียง ANC)
Port การชาร์จ ก็แน่นอนว่าเป็น USB-C ครับ ใช้งานสะดวกแน่นอนครับ แถมตัวเคส ยังเป็นสามารถ Charge Wireless ได้ด้วยนะ อันนี้เจ๋งจริง
Other Specification
- กันน้ำระดับ IPX4
- Wear detection sensor
- Microphone
Overview & Opinion
โดยส่วนตัวแล้วเนี่ย แก้วเป็นคนชอบ หูฟังแบบ In-ear เพราะว่ามันเงียบ เสียงมันแน่น แต่ว่าเราจะพบปัญหา เวลาใส่ไปนาน มันจะปวดหู เพราะลูกยางรอง มันจะดันหูอยู่ตลอด พอมาได้ลองใช้ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้ ที่มี Open-fit Active Noise Cancelling มันให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกัน ในการสวมใส่ที่สบายกว่า
Sound Character ของ หูฟังตัวนี้เป็นในลักษณ์ของ หูฟังที่ Sound Stage ไม่กว้างมากนัก Bass ที่มาเป็นลูก ไม่ใหญ่มาก แต่มีความ Linear ไม่กระแทกหูจนเกินไป ทำให้ สามารถฟังดนตรีได้ทุกแนว เสียดายที่ Equalizer ให้มาน้อยไปหน่อย
Battery Life สามารถทำได้ดีมากใน Mode การใช้งานแบบ Disable ANC ยาวนานเกือบ 1 วันเลย ถ้าเรารวมตัว Case Charge เข้าไปด้วยนะ และเรื่องของการที่ทำให้ เราสามารถ Charge Case หูฟัง ชาร์จเร็ว ด้วย USB-C ได้เท่านั้น ส่วนตัว Wireless จะเป็น Spec จีนเท่านั้นครับ ชาร์จ 15 นาทีใช้งานต่อได้ 4 ชม.
--------------------
ราคาค่าตัวของ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้จะเปิดตัวที่ 5,999 เท่านั้น แถมมีโปรจองได้ราคาพิเศษด้วยนะครับ https://bit.ly/3jylvsj
ช่องทางจำหน่าย HUAWEI FreeBuds 4
HUAWEI Online Store https://bit.ly/366bKtk
Shopee https://bit.ly/36aO2fi
Lazada https://bit.ly/3AfI22S
JD Central https://bit.ly/2UfsMCK
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie
Comments