สวัสดีครับเพื่อนๆ #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์ ทุกคน กลับมาเจอกันอีกครั้ง และวันนี้ แก้วอยู่กับ Huawei Mate 40 Pro 5G ราชาแห่งวงการถ่ายภาพ กลับคืนสู่บัลลังก์ อีกครั้ง คำว่า " ราชา " และ คะแนนสุดตารางใน DxOMark ไม่ใช่แค่ราคาคุยจริงๆ ไปชมภาพพร้อมๆ กันเลยครับ
Huawei Mate 40 Pro มาพร้อมกับ Layout กล้องแบบ Space Ring Design ที่ได้แรงบันดาลใจมา เทหวัตถุในอวกาศ นั่นก็คือ Galaxy ที่เคลื่อนตัวหมุนวนเข้าหาศูนย์กลางเป็นวงกลมนั่นเอง
Rear Camera Specification ชุดกล้องหลัง
- กล้องหลัก Super Sensing Wide ความละเอียด 50MP
- กล้องมุมกว้าง Ultra Wide Cine ความละเอียด 20MP
- กล้อง Telephoto 5x Periscope ความละเอียด 12MP ซูมไกลสุด 50x นะครับ Hybrid 10x
เอาล่ะครับไม่เสียเวลา เราไปชมภาพของกล้องแต่ละตัวกันเลยดีกว่า
กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล สำหรับใครที่เคยสัมผัส Huawei P40 Pro หรือ Huawei P40 Pro Plus มาก่อน อาจจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับมันมาก แต่ต้องบอกว่า HDR และความคมของภาพ มีการ Calibrate มาให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ไฟล์ของกล้องหลัก ที่ความละเอียดสูงกำลังดี แต่สามารถควบคุมขนาดไฟล์เอาไว้ให้ไม่เกิน 6-7 MB ต่อไฟล์ได้ ช่วยให้ยังได้ภาพถ่ายที่สวยงาม คมชัด แต่ถนอมความจุเครื่องได้เป็นอย่างดี
ภาพนี้จริงๆ แล้วท้องฟ้าเมฆด้านหลังค่อนข้างที่จะสว่างกว่านี้ แต่ด้วย HDR ของกล้อง ช่วยดึงสีท้องฟ้าที่โดนเมฆบังไว้ออกมาได้ และลดแสงสะท้อนจากก้อนเมฆลง ให้ตัว เจดีย์ที่เป็นจุดโฟกัส โดดเด่นขึ้นมา
มาต่อกันที่กล้อง Ultra Wide Cine 20MP กันครับ ต้องบอกว่า องศาการรับภาพ หรือความกว้างของภาพที่ได้ อาจจะสู้ค่ายอื่นไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้มาแทนคือความละเอียดภาพที่สูงมากๆ และ Distortion ของเลนส์ที่เรียกได้ว่า แทบไม่มีเลย
ใครที่ชอบถ่ายงานสถาปัตยกรรม ปกติแก้วจะชอบบอกว่า พยายามใช้กล้องหลักในการถ่ายนะ แต่ถ้าเป็นตัวนี้ Ultra Wide Angle สามารถเอามาใช้ถ่ายได้เลย อัตราการบิดเบี้ยวของภาพต่ำมาก และรายละเอียดดี
เอามาถ่าย Portrait ก็ยังได้ HDR ใช้ได้ Skintone ดี
มาถึงกล้อง Telephoto กันแล้วว่า จะดีงามขนาดไหน ด้วยระยะการซูมที่ไกลสุดที่ 50x
ภาพนี้แก้วทำไล่ระดับการ Zoom มาให้ชมว่า Quality ออกมาประมาณไหน อย่างทุกครั้งครับ ที่ 10x ยังคงเป็นระยะที่หวังผลได้จาก Telephoto ของ Huawei
การใช้ Telephoto 5x ในการสร้างมิติให้ภาพถ่ายดูไม่แบน เราอาจจะหาฉากหน้า วางไว้เพื่อนอกจากจะตีกรอบสายตาแล้ว ยังช่วยให้ Object ในภาพ ดูเด่นขึ้น มีความลึก ความตื้นให้เห็นแบบชัดเจน
ภาพนี้แก้วว่า เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นพลังของกล้อง Telephoto ที่ทำงานร่วมกับ HDR ของ Huawei Mate 40 Pro 5G ได้ดีมาก รายละเอียดที่คมชัด แม้ถ่ายภาพย้อนแสง และ Color Balance ที่ให้ค่าสนที่ค่อนข้างจะตรง
เห็นระยะและความละเอียดของกล้องต่างๆ กันไปแล้ว มาดูภาพถ่ายจาก Mode Portrait กันบ้าง แก้วบอกเลยว่า ร้องอื้อหือ แน่นอน
ต้องบอกว่า สิ่งที่ถูกปรับปรุงขึ้นมามากกว่าตัว Huawei P40 Pro อย่างชัดเจนเลยก็คือ Skintone ผิว เวลาที่เราถ่าย Portrait อาการสีแดงไป หรือเหลืองไป หายไปแล้วอย่างชัดเจน และการเก็บ ขอบเวลาเบลอฉากหลังก็ทำได้เนียนมากๆ
ขนาดว่าสีฉากหลังที่เป็นสีม่วงซึ่งกินพื้นที่เยอะมากๆ ในภาพ ก็ไม่ได้ทำให้ สีผิวของนางแบบผิดเพี้ยนไปเลย สีตรงมากๆ แถมใน Mode นี้ HDR ก็ยังทำงาน ดึงรายละเอียดในส่วนของฟ้ากลับเข้ามาด้วย
หลายคนอยากรู้ว่าเวลาถ่าย Portrait แบบย้อนแสง HDR จะยังทำงานได้ดี เก็บ Rim Light เอาไว้ได้ไหม ภาพนี้คงจะได้คำตอบ สำหรับคำถามนั้นกันไป ชัดๆ แล้วเนาะ
อีกสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ของ Portrait ในรุ่นนี้ คือความฉลาดในการประมวลระยะ ในการเบลอฉากหลัง จากภาพนี้ถ้าเราสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่า ฉากหลังในระยะที่ไม่ได้อยู่ห่างจากตัวแบบมาก จะเบลอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยิ่งไกลออกไป ยิ่งเบลอมากขึ้น เกิด Bokeh มากขึ้น ซึ่งทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมือนไม่ได้ใช้ Software มาช่วยในการทำเบลอเลย
รูปแบบของ Bokeh ในโหมด Portrait ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นเดิม และ เก็บขอบเนียนทุกแบบจริงๆ
ใช้ Huawei ถ่ายทั้งที จะไม่ลอง Monochrome Leica ก็คงไม่ได้เนาะ อธิบายความรู้สึกไม่ถูกจริงๆ หลังจากถ่ายภาพนี้ บอกได้แค่ว่า " ดีย์ " ทั้ง Contrast ในภาพที่เป็นเอกลักษณ์มานาน การไล่ระดับการเบลอฉากหลังที่สมบูรณ์แบบมากๆ ทำให้ Mood ทั้งหมดในภาพลงตัวจริงๆ
ภาพนี้ถ่ายในช่วงเย็นของวันที่แดดส่องอ่อนๆ เข้ามา ถ้าสังเกตในภาพ เราจะเห็นว่า ในตัวแบบ แทบไม่มี Highlight ที่สว่างจนขาวให้เห็นเลย Dynamic Range ของภาพทำได้ดีมากๆ ได้รายละเอียดทุกย่าน Contrast
ไหนถ่ายภาพบุคคลอยู่แล้ว เรามาดูภาพจากกล้องหน้ากันเลยครับ ชุดกล้องหน้าของ Huawei มีอยู่ด้วยกัน 2 ตัวก็คือ กล้องหน้า 13MP f/2.4 ส่วนอีกตัวจะเป็น 3D Depth Sensing Camera วัดระยะ
ต้องบอกว่าตัวกล้องหลักเนี่ย มีองศารับภาพกว้างเป็น 100 ํ เลย ทำให้การ Selfie ทำได้ในหลากหลายระยะ จะถ่าย Group Shot ก็สบายๆ ไม่ต้องยืดแขนเป็นแม่นาคแบบรุ่นก่อนๆ แล้ว
เรื่อง Skintone ในกล้องหน้า ให้สีสันที่ค่อนข้างตรงใกล้เคียงกับกล้องหลัก
แต่มีอาการ ขอบม่วงให้เห็นอยู่บ้างเวลาเจอการย้อนแสงหนักๆ
กล้องหน้าสามารถที่จะใช้ Artistic Bokeh ได้เหมือนกล้องหลัง และเรื่องการตัดขอบเนียนไม่แพ้กล้องหลังเลย น่าจะเพราะมี 3D Depth Sensing Camera อีกตัวมาช่วยวัดระยะ ให้นี่แหละครับ
เอาล่ะครับถ่ายกันมาทั้งวันจนถึงช่วงค่ำๆ แล้ว เรามาดูกันว่า ภาพถ่ายกลางคืนจะเป็นยังไงบ้าง ?
ปกติเวลาที่เราจะถ่ายภาพกลางคืน ทุกคนจะคุ้นชินกับพลังของ Night Mode ของ Huawei และ RYYB Sensor ในครั้งนี้ เราสามารถที่จะใช้ Mode Portrait ถ่ายเวลากลางคืนได้เรียบร้อยแล้ว ยังคงได้ภาพสว่างใสเหมือนเดิม จัดการ Noise ได้ดีมากๆ
ลองถ่ายภาพวัดอรุณฯ ในเวลากลางคืน โดยใช้ Mode Auto เลยนะ เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ดีจนน่าตกใจ ปกติในรุ่นก่อนๆ แก้วจะยังไม่ไว้ใจ Mode Auto ธรรมดาขนาดนั้น
มาลอง Zoom 5x เข้าไปบ้าง ไฟล์ภาพนี่ คมจัดๆ เลยครับ สำหรับการ Zoom ระยะนี้ในเวลากลางคืน
ทีนี้เป็น Telephoto 10x กันบ้างครับ RYYB นี่ทำให้ Night Mode แก้วแทบไม่ได้กดเข้าไปเลย
ทีนี้ถ้าถามว่าใช้ Night Mode แล้วจะได้ภาพสว่างขนาดไหน ก็เห็นดาวเลยอะครับ สำหรับการรอ Shutter ทำงานที่ 4 วินาที ไม่ต้องพึ่งขาตั้ง เอามือถือถ่ายได้สบายๆ
Night Mode ที่นอกเหนือจาก ทำให้ภาพสว่างแล้ว Software ยังช่วยควบคุมปริมาณแสงไม่ให้สว่างจนเกินไป และ Night Mode ที่คนบ่นๆ กันว่า Clarity เยอะ จนภาพแข็ง ตอนนี้ลดลงบ้างแล้วนะครับดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเยอะ
ตามธรรมเนียมครับ ต้องเอา กล้อง 50x มา Zoom ดวงจันทร์ให้ชม 555
และเมื่อนำมาใช้กับ Smart Device ตัวอื่นๆ ของ Huawei ไม่ว่าจะเป็น Laptop หรือ แว่นตา GENTLE MONSTER HUAWEI ด้วยการเชื่อมต่อที่ Seamless ก็ทำให้ชีวิตเราสมาร์ทขึ้นไปได้อีกขั้นหนึ่งเลยครับ
นอกเหนือจากงานภาพนิ่งแล้ว ใน Huawei Mate 40 Pro 5G เหมือนเป็นการยกเครื่องการถ่าย Video ที่ให้ Experience ในการใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้ง กันสั่นที่ดีขึ้นมาก Video HDR สำหรับถ่ายย้อนแสง และ Slo-mo Video ความละเอียดสูง Full HD ซึ่งแก้วได้ทำคลิบแยกมาไว้ให้ชมแล้ว ไปดูกันได้เลย
Overview & My Opinion
สำหรับแก้วแล้ว Huawei Mate Series เป็นเหมือนกับรุ่นที่ Huawei จะปล่อยของ ปล่อยเทคโนโลยีทั้งหมดที่จะเป็น Standard ใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนของพวกเขาในปีต่อๆ ไป และวันนี้ #HuaweiMate40Pro5G ก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์ของราชา แห่งการถ่ายภาพอีกครั้ง และได้ สร้าง Standard ใหม่ ที่นอกจากจะมีฟีเจอร์ในการถ่ายภาพ และวีดีโอ ที่กล้าใช้คำว่าเหนือชั้นที่สุดในตลาดแล้ว Ecosystem ของ Huawei ก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ มี Device อื่นๆ เข้ามาใช้ร่วมกัน สร้าง Smart Lifestyle ที่เป็นจริงได้สำหรับทุกคน
ราคาเปิดตัวของ Huawei Mate 40 Pro 5G นั้นอยู่ที่ 34,990 .- บาทเท่านั้น และเมื่อจองกับ Operator จะลดเหลือ 14,990 คุ้มค่าสุดๆ และสำหรับคนที่สั่งจองภายในปี 63 นี้ รับของแถมไปเลยแน่นๆ ดังนี้ครับ
IG : kaew.ravie
Comments