top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

Review : Keychron K4 V2 Keyboard ไร้สาย ปุ่มครบ แบตอึด ครบจริง ! ทุกฟังค์ชั่น

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ MB Gadget แก้วเอา Keyboard ตัวล่าสุดที่เพิ่งเอาเข้ามาประจำการใน Studio มา นั่นก็คือ Keychron รุ่น K4 V2 นั่นเองครับ เป็นแบรนด์ที่คนเล่น Keyboard Mechanical หรือ คนที่ชื่นชอบ Tech Gadget หลายคนต้องรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอน ไปชมพร้อมๆ กันครับ

Keychron คืออะไร ?

เริ่มต้นจากการเป็น Project ใน Kickstarter เล็กๆ ที่เปิดประตูให้พวกเขาสร้างชื่อใน Keyboard รุ่น K1 และ เมื่อถึงวันรับของ ทุกคนที่ไป Back Project นี้ได้สัมผัสตัวจริงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขา รัก Keyboard ตัวนี้มากๆ ทั้ง Design ที่ Premium และฟังค์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน

ทั้งงาน Design ทั้งแต่ตัว Packing ภายนอก ไปจนถึง Layout ของตัว Keyboard ก็การใช้งานที่ดีเยี่ยม เป็นอันแจ้งเกิดแบรนด์ของพวกเขาในตลาด Mechanical Keyboard

อุปกรณ์ภายในกล่อง Keychron K4 V2
  • Keyboard 1 ชุด ติดตั้งปุ่มกดของ Mac/iOS

  • ปุ่มเสริมสำหรับของ Windows ปุ่ม alt และ ปุ่ม Windows

  • ปุ่ม esc และ light อีกอย่างละ 1 ชิ้น

  • อุปกรณ์สำหรับถอดเปลี่ยนปุ่ม Keyboard และถอด Switch

  • สาย USB-A to USB-C สำหรับการชาร์จและเชื่อมต่อใช้งานแบบผ่านสายกับคอมพิวเตอร์

  • เอกสารแนะนำการใช้งานเบื้องต้น

  • คู่มือการใช้งาน (ภาษาอังกฤษและไทย)

Keyboard Keychron รุ่น K4 V2

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม พวกเขาก็ได้ออก Keyboard มาอีกหลากหลายรุ่น และสำหรับ Layout แป้นพิมพ์จำนวน 100 ปุ่ม ( มีฝั่ง Numpad ตัวเลขทางขวามาให้ ซึ่งแก้วใช้อยู่ตลอด ) ที่มีการจัดวางใหม่ ให้ตัว Keyboard กระทัดรัดขึ้น ก็มาในชื่อรุ่นว่า Keychron K4 นั่นเองครับ ตัวที่ทุกคนเห็นอยู่นี้เป็น เวอร์ชั่นอัพเดตใหม่ ในรุ่นที่ 2 แล้ว

สิ่งที่บ่งบอกความเป็น Keychron

ตัว Keycap เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมาก ของ Keychron ตัว Keycap ทำจาก Plastic ABS คุณภาพสูง และ Palette สี ที่จะประกอบด้วย สีเทา สีเทาเข้ม และ ปุ่ม Esc สีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่า มองไกลๆ ดูแว่บเดียวก็รู้แล้วว่า นี่แหละ Keychron แน่นอน นอกจากนั้น Palette สีแบบนี้ยังช่วยได้ดูสบายตา และอ่านปุ่มง่ายขึ้นด้วย สำหรับคนที่ไม่ได้พิมพ์สัมผัส

และ นอกจากการลักษณะของการออกแบบ Layout และรูปแบบ Key ยังเอาใจแฟนๆ คนใช้ Mac และ iOS อีกด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่า คนใช้ OS อื่นจะใช้ไม่ได้นะครับ สามารถใช้ได้เหมือนกันแหละ ในกล่องจะมีปุ่มมาให้เราเปลี่ยนด้วยนะครับ แต่แก้วเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว

Case คุณภาพสูง เสริมขอบโลหะ เพื่อความแข็งแรง

Keychron K4 V2 ตัวเคสทำมาจาก Plastic ABS คุณภาพสูง แต่ว่าจะล้อมขอบเสริมแกร่งด้วย Aluminium Alloy ช่วยให้ทนทาน และมีงานประกอบที่แน่นหนา รวมไปถึงสร้างผิวสัมผัสที่ดู Premium ขึ้นด้วย

ที่ต้องทำกันขนาดนี้เพราะว่า ตัว Case ของ Keyboard หรือ ตัว Body เนี่ยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนเล่น Mechanical Keyboard จะให้ความสนใจ ในเรื่องของความสวยงาม ความแข็งแรง ความทนทานที่บางทีย้ายที่ไปไหน มาไหนแล้ว เผลอทำตก จะได้ไม่ต้องกลัว พังกันได้ง่ายๆ

เปลี่ยนการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย และ Seamless

นี่คือจุดเด่นที่โดดเด่นมากที่สุดข้อหนึ่งของ Keychron และ อาจจะเป็น อีกหนึ่งเหตุผลข้อใหญ่ที่หลายคนตัดสินใจซื้อ Keyboard รุ่นนี้มาใช้งาน นั่นก็คือ เรื่องของการเชื่อมต่อนั่นเอง บริเวณด้านข้างซ้ายของ Case จะมี 1 Port | 2 Switch ที่ทำหน้าที่ต่างกัน

  • USB-C Port : สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และ การใช้งานแบบ Cable

  • Connection Type Switch : เลือกรูปแบบสัญญาณการเชื่อมต่อ ที่ Keyboard เราจะไปใช้ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น Windows & Android หรือ Mac & iOS ก็เลื่อนปรับได้ตรงนี้เลยครับ

  • Power Switch : เป็น Switch เปิดเครื่องด้วย และยังเป็น Switch สำหรับเปิดการใช้งานในรูปแบบของ ไร้สายผ่าน Bluetooth หรือ มีสาย ผ่านทาง USB-C Cable ถ้าเสียบสายแล้วพิมพ์ไม่ติด อย่าลืมมาปรับก่อนนะครับ

เชื่อมต่อพร้อมกัน 3 อุปกรณ์ และสลับได้ง่ายสุดๆ

ใน Connection Profile เราสามารถเลือกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เอาไว้ได้พร้อมกันสูงสุด 3 อุปกรณ์ จะ Smartphone , Tablet , Computer , Laptop , Smart TV ตัวเดียวจบครับ ใครรู้ว่าใช้ตัวไหนบ่อยๆ ไปต่อไว้เลย

และ เราสามารถจะปรับเปลี่ยน การเชื่อมต่อได้ง่ายมากๆ เพียงกดปุ่ม fn ค้างไว้ แล้วกดปุ่มหมายเลข 1 , 2 , 3 บริเวณด้านซ้ายบน ( สังเกตง่ายๆ จะมี Icon Blueooth อยู่ ) ก็สามารถจะสลับได้แล้วครับ

มี Switch ให้เลือกตามสไตล์ และการใช้งาน

ใครๆ ที่ใช้ Mechanical Keyboard มาก่อน ย่อมจะต้องใส่ใจกับเครื่องนี้ค่อนข้างมากเลยก็เพราะว่า มันเป็นตัวกำหนด Feeling ในการพิมพ์ของเราว่าจะต้องใช้แรงเยอะมากน้อยแค่ไหน หรือ เสียงจะเพราะถูกใจเรา แต่คนข้างๆ ตบ ก็อยู่ที่ Switch นี่แหละครับเป็นหลัก โดย Keychron จะมีให้เลือก 3 แบบนะครับ

  • Red Switch : แบบ Linear แรงต้านต่ำ นุ่มมือ กดสบาย เสียงรบกวนต่ำ

  • Blue Switch : Clicky สำหรับคนที่ชื่นชอบการได้ยินเสียงพิมพ์ แรงต้านสูง เสียงดังสุด

  • Brown Switch สำหรับคนที่ชอบ Feeling แบบบลู แต่ลดความดังลงมาก ยังพิมพ์สนุกอยู่

Keychron เลือกใช้ Switch จากแบรนด์ Gateron ที่เรียกได้ว่าเป็น Premium Switch แล้ว เป็นผู้ผลิตจากประเทศเยอรมัน มีความทนทานต่อการใช้งาน แต่ละปุ่มอยู่ที่ 50-80 ล้านครั้งกันเลยทีเดียวเรียกได้ว่า ได้มาแล้วใช้กันยาวๆ หรือ ถ้ามีปัญหาเมื่อใช้งานไปนานๆ หรือ เบื่อเสียงแบบ Brown แล้ว เราก็สามารถจะหา Switch มาเปลี่ยนใช้งานได้ เพราะ Keychron K4 V2 เป็นแบบ Hot Swappable Keyboard ที่เราสามารถจะหา Switch ตัวใหม่มาเปลี่ยนได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ตัว Keychron K4 V2 ที่แก้วใช้อยู่นี้ เป็น Brown Switch นะครับ

เอาเสียง Typing Test มาให้ลองฟังกันครับ ว่า Brown Switch จาก Gateron บน Keychron เสียงจะออกมายังไงบ้าง ? โดยส่วนตัวแก้วว่ากำลังดีนะ ทำงานกับคนอื่นก็ได้ไม่โดนเดินมาโบกหัวแน่นอน

และ แน่นอนว่า ก็ต้องมีไฟ Backlit มาให้ ซึ่ง Keychron K4 V2 มีทั้งที่เป็นแบบ Static White Light และเป็น Full RGB LED นะครับ ตัวที่แก้วใช้อยู่นี้จะเป็น RGB นะ ต้องบอกว่า ฟังค์ชั่นใน Mode ไฟให้มามากพอสมควรเลย แต่ความสว่างของไฟ ไม่ได้สว่างมากนัก ใครอยากได้สว่างๆ ต้องหา Keycap Pudding มาเปลี่ยน สว่างสวยแน่นอน

ปรับองศาในการพิมพ์ที่ตัว Keyboard ได้ 2 ระดับ แต่ละระดับมีความห่างกันประมาณ 1 ซม.

Battery สูงถึง 4,000 mAh

ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสุดๆ ถ้าไม่ได้เปิดไฟ ลูกเล่นเยอะๆ อาจจะใช้งานได้ถึง 10 กว่าวันเลยนะครับ ถ้าใช้งานต่อวันอยู่ที่ประมาณ 6-8 ชม. นี่แบบสบายๆ เลยละครับ

Palm Rest สุดหรูหรา

ที่รองข้อมือทำจากไม้ลายสวย พร้อม Badge Logo Keychron ซึ่งสามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้ Keyboard เป็นเวลานานได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้นมันสวยงามมากด้วย ซึ่งที่รองข้อมือชิ้นนี้ ต้องซื้อแยกนะครับ ราคา 890.- เท่านั้น ใช้ Keychron ไม้ชิ้นนี้ต้องมีครับ สบายจริง

พอเอามาวางประกบเข้ากับ Keyboard แล้วใช้งานเนี่ย ดูดีมาก และเมื่อได้ลองใช้งานจริงๆ ก็ลดการเมื่อยล้าจากการเกร็งข้อมือเวลาพิมพ์ได้จริงๆ ของมันต้องมีครับ อันนี้

แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่า ตัวรองข้อมูลใช้ไปใช้มา มันจะเลื่อน ไม่อยู่กับที่ Palm Rest จาก Keychron มีแผ่น Anti Slip มาให้ทั้งสองข้างใต้แผ่นไม้เลย ใช้งานได้สบาย ไม่เลื่อนง่ายแน่นอน

 
Opinion & Overview : สรุป

กับ คนที่เคยใช้ Mechanical Keyboard มาค่อนข้างหลายตัว แบบแก้ว Keychron เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ในการออกแบบ ในการวาง Layout และ Features ในการใช้งานที่ตัวเดียวจบจริง Creator แบบเราที่พกอุปกรณ์เยอะๆ เนี่ยชอบ เพราะสลับอุปกรณ์ได้ง่ายมากๆ แถมแบตเตอรี่คือ อึดสุดๆ ถ้าไม่ได้เปิดไฟวิบวับมากมายแค่พออ่านได้ ใช้ได้เป็นสัปดาห์เลย แถม Latency ก็ต่ำมากๆ


ด้วย Layout Fullsize ของ K4 มีปุ่มมาให้ครบถ้วนมาก เหมาะกับคนที่ทำงานกับการพิมพ์ตัวเลขเยอะๆ เช่น คนทำ Graphic , ทำ 3D ที่ต้องกดตัวเลขเยอะๆ รวมไปถึง คนเขียน Content หรือ Content Creator แบบแก้วเนี่ย ได้ใช้งานมันเต็มที่มาก ปุ่มน้อยกว่านี้ไม่ได้จริงๆ


ใครเอามาเล่นเกมก็ได้นะ แต่แนะนำว่าให้ใช้ Cable Mode นะครับ เพื่อความรวดเร็ว และ วันไหนเบื่อ Switch ที่ติดมาตั้งแต่ตอนซื้อ ก็ถอดเปลี่ยน Switch เปลี่ยน Keycap ได้สบาย นี่คือหนึ่งใน Keyboard ที่คนเล่น Mechanical Keyboard ควรมีไว้สักตัวครับ

สามารถสั่งซื้อ Keychron K4 V2 หรือ Keychron รุ่นอื่นๆ ได้ทาง https://www.keychronthailand.com/pages/where-to-buy

ทั้งทาง Online และที่หน้าร้านใกล้บ้านของคุณครับ

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

IG : kaew.ravie

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page