top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

[ Review ] Mi 10T Pro ใส่กล้อง 108MP แล้วทรงพลัง คุณภาพการถ่ายภาพที่เกินราคา

สวัสดีครับเพื่อนๆ โมบายโฟโตกราฟเฟอร์ทุกคน หลังจากที่แฟนๆ หลายๆ คนเรียกร้องมาว่าอยากให้ทำรีวิว วันนี้ก็ได้มันมาแล้ว กับ Smartphone ตัวล่าสุดที่น่าจับตามองมากๆ จาก Xiaomi นั่นก็คือ Mi 10T Pro นั่นเองครับ

มาเริ่มกันที่ Spec และดีไซต์ของตัวเครื่องกันดีกว่าครับ

Xiaomi Mi 10T series มาพร้อม Snapdragon 865 หน้าจอ LCD-IPS เกรดดี ขนาด 6.67 นิ้ว (2340 × 1080 พิกเซล) Full HD+, รีเฟรชเรท 144Hz, พร้อมการ์ดจอ Adreno 650 RAM LPPDDR5 6GB / 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB รุ่น 10T RAM LPPDDR5 8GB + ความจำ (UFS 3.1) 128GB / 256GB ในรุ่น 10T Pro ซิมคู่ (nano + nano) Android 10 รับบน MIUI 12 แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W


ฝาหลังแบบเงารอยนิ้วมือมาง่ายม๊ากกก ต้องคอยเช็ดตลอด ใครซื้อมาใช้แนะนำ ใส่ Case จะดีกว่าครับ Module ของกล้องค่อนข้างจะใหญ่มาก Layout การวางกล้องคล้ายๆ กับ Smartphone หลายๆ รุ่นที่วางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังนี้

ตัวเครื่องค่อนข้างจะหนาเหมือนกัน แต่น้ำหนักกับการถือจับไม่ได้ลำบากมาก และปุ่ม Power ที่มาพร้อมระบบ Fingerprint Unlock ที่ทำงานได้เร็วมากๆ ถ้าตั้ง Face Unlock ไว้ด้วย บอกเลยว่า แทบไม่ต้องทำอะไรเลย โทรศัพท์จะพร้อมใช้งานตลอดเวลาที่ยกขึ้นมา

หน้าจอหน้า 6.67 นิ้ว IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี) จอแสดงผล HDR 10 Refresh Rate 144Hz ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล (386 ppi) หน้าจอกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 5

มาพร้อมกล้องหน้า 20MP f/2.0 HDR เสียดายถ่ายวีดีโอได้แค่ 1080 30fps เท่านั้น เลยทำให้กล้องหน้าอาจจะดูไม่จัดเต็มเท่าไหร่
[ Camera Specification ]

กล้องของ Xiaomi Mi 10T Pro 5G มีทั้งหมด 3 ตัว ดังนี้

  • กล้องหลัก 108 MP, f/1.7, 26mm

  • กล้องมุมกว้าง 13 MP, f/2.4, 123˚

  • กล้องมาโคร 5 MP, f/2.4, AF (ทีเด็ด บอกเลย)

ถ่ายวีดีโอกล้องหลังได้สูงสุดถึง 8K 30 fps / 4k 60fps

มาทีคนอาจจะรู้สึกว่า เอ๊ ทำไมไม่ใส่ Telephoto มานะ จริงๆ แอดมินก็คิดแบบนั้นแหละครับตอนแรก แต่ช้าก่อน เดี๋ยวเราไปดูกันว่า 2x Digital Zoom มันจะใช้งานแทน Telephoto ได้ขนาดไหน กันนะ ?

มาเริ่มกันที่รายละเอียดของกล้องหลัก 108MP กันเลยครับ แอดมินลอง Crop 300% มาให้ชม เห็นแนวตึกที่อยู่ไกลๆ ตรงนั้นไหมครับ ? เรายังสามารถเห็นรายละเอียดของตึก หรือแม้กระทั่งเสาอากาศเล็กๆ ก็ยังเห็นรายละเอียดได้ครบถ้วน อันนี้คือ Highlight ของรุ่นนี้จริงๆ

เรื่องความคมและรายละเอียดต่อให้เราไม่เปิด 108MP ไฟล์ที่ออกมาจะอยู่ที่ 25MP ซึ่งก็ถือว่า พอใช้งานได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องเปิด 108MP ก็ได้ ขนาดไฟล์ค่อนข้างจะใหญ่ ถ้า Detail เยอะจะอยู่ที่ 2-5mb เลยทีเดียวถ้า 108MP ไฟล์จะอยู่ที่ 9 - 12 mb

ถ้าเป็นไปได้อยากให้ Xiaomi เพิ่ม โหมดการถ่ายที่ขนาดไฟล์ 12MP เข้ามาด้วย เพื่อลดการสิ้นเปลืองพื้นที่จัดเก็บไฟล์

สำหรับ HDR ใน Mi 10T Pro ทำงานได้ดีใช้ได้เลยครับ ดึงรายละเอียดท้องฟ้า Detail ในเงามืดกลับมาได้ แต่ถ้าเพื่อนๆ สังเกตดีๆ ในส่วนที่เป็น ขอบของ ใบไม้ในภาพ จะมี Highlight เกิดขึ้นบริเวณขอบ น่าจะมาจาก Software ที่พยายามดึงรายละเอียดภาพกลับมา

ที่ค่า f/1.7 ของกล้องหนักนั้น จากภาพนี้ลองสังเกตบริเวณจุดโฟกัส และไล่ระดับไปจนถึงระยะที่เบลอ จะเห็นว่า การถ่ายภาพเบลอฉากหลังนั้น ทำได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้ Software มาช่วยเยอะ ช่วยให้การละลายฉากหลังเป็นธรรมชาติกว่าเดิม ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจาก Sensor ที่ตัว Mi 10T Pro เลือกมาใช้ นั่นแหละครับ

เวลาเอาเลนส์หลักมาถ่ายระยะใกล้ๆ ข้อควรระวังเลยนะครับ ช่วยความชัดมันน้อยมาก อันเนื่องมาจากค่า f ที่ต่ำ ดูจากภาพเค้กนี้ได้ ระยะโฟกัสคืออยู่ตรงกลาง Cake เท่านั้น ภาพนี้ถ่ายในระยะห่างประมาณ 10 cm ถ้าจะให้ชัดขึ้นครบๆ ลองถอยออกมาหน่อย

มาต่อกันที่ Ultra Wide Angle กันบ้างครับ 13MP จะคุณภาพจะดีไหม จะกว้างสะใจ และ Distortion เป็นยังไงบ้าง มาดูกันครับ

จากภาพนี้ก็จะเห็นว่า เรื่องรายละเอียดของภาพนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ด้วยความกว้างในมุมมองขนาด 123 ํ เนี่ย ก็เลยมีอาการเบลอที่ขอบภาพ อันเป็นสาเหตุมาจาก Optic ของกล้องเกิดขึ้นได้

ตัวอย่าง พื้นที่ของภาพที่ยังรักษาความคมเอาไว้ได้ดี ในส่วนของ Distortion อาจจะมีให้เห็นบ้าง แต่ไม่ได้เบี้ยวจนถึงขนาดรับไม่ได้

กว้างระดับ Shot เดียวถ่ายเครื่องบินได้เกือบครบทั้งลำ (ปีกยาวไปหน่อยอะน้า)

HDR ของกล้อง Ultra Wide Angle นั้น ก็ทำได้ดีไม่แพงกับกล้องหลักเลยครับ แถมโทนสีค่อนข้างจะใกล้เคียงกันมากๆ จะมีข้อเสีย อย่างเดียวก็คือ กล้องตัวนี้ Lock Focus นะครับ ไม่มีมอเตอร์ AF มาให้

มาดูการถ่ายภาพ Portrait กันบ้างครับ สิ่งที่น่าสนใจใน Mi 10T Pro ก็คือ ถึงไม่มี 2x มาให้ แต่ถ้าเราอยากถ่าย Portrait สามารถใช้ กล้องหลักถ่ายได้เลย โดยที่ไม่ต้องเข้า Mode Portrait ด้วยซ้ำ

ด้วยเลนส์ที่มี f/1.7 ทำให้การละลายฉากหลังนั้นไม่ต้องพึ่ง Software มาช่วย ซึ่งทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

พอใช้ Mode Portrait การเบลอฉากหลังก็จะละลายได้มากขึ้น แยกระดับของจุดโฟกัส และไล่ระดับได้ค่อนข้างดีไม่แพ้กัน แต่ว่า ก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติ เท่าการเบลอฉากหลังแบบ Optical นั่นเอง

มาดูในเรื่องของการ Beautify หรือ Beauty mode กันบ้าง Xiaomi ทำ Software ตรงนี้ได้ค่อนข้างดีขึ้นพอสมควรเลยนะครับ ผิวไม่โดนเกลี่ยจนเนียนเกินไป สีของ Skintone ไม่เพี้ยนไปตามสภาพแสง อาจจะมีเก็บขอบหลุดไปบ้างในสภาพ Background ที่ Detail ซับซ้อน

ถึงแม้ว่าใน Portrait โหมด จะยังไม่สามารถทำ HDR กับจุดที่เป็น Highlight ในภาพได้ แต่ช่วยดึง ความสว่างของใบหน้าตัวแบบ ขึ้นมาได้ดี ทำให้ภาพยังคงดูเป็นธรรมชาติได้ดีทีเดียว

ในสภาพแสงที่แตกต่างกันออกไป จะมีอาการ Skintone สีเปลี่ยนเกิดขึ้นได้บ้าง (แต่ไม่ใช่ทุกครั้งนะครับ)

จะอยู่ใน Action ไหนก็แล้วแต่ ถ้าสภาพแสงโอเค ก็สามารถจะเก็บขอบภาพได้เนียนตาดีครับ

ภาพย้อนแสงก็ถือว่าทำได้ดีใช้ได้เลยครับ เก็บขอบเนียน Beauty mode เกลี่ยผิวสวย ถึงจะดึงรายละเอียดท้องฟ้าไม่ได้ แต่มันก็ให้ฟีลเหมือนใช้กล้องจริงๆ ที่เราวัดแสงที่ตัวนางแบบ

ในส่วนของลูกเล่น Filter สีก็มีให้เลือกใช้นับไม่ถ้วนเลย จะโหลดมาใหม่ก็ได้ หรือใช้ที่มีติดเครื่องก็ได้

แอดมินชอบโหมดนี้มาก หาแสงสวยๆ มาถ่ายภาพเงาจากต้นไม้ยากจังเลย Mi 10T Pro ทำให้คุณถ่ายภาพแบบนี้จาก Background ที่ไหนก็ได้ แสงแบบไหนก็ได้ กดทีเดียวได้แบบนี้เลย

หรือจะเป็นแนวแสงลอดเข้ามาแบบนี้ก็ถ่ายได้เหมือนกัน ลูกเล่นสำหรับ Portrait เยอะดีจริงๆ

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait Effect รูปแบบอื่นๆ ครับ และสามารถใช้กับกล้องหน้าได้ด้วยนะ มันเจ๋งตรงนี้แหละ
มาดูกล้องหลังตัวสุดท้าย นั่นก็คือ Macro 5MP f/2.4 กันครับ

นี่อาจจะเป็นกล้อง Macro ที่แอดมินประทับใจมากที่สุดตัวหนึ่งเลยครับ Depth สวย รายละเอียดค่อนข้างดีในทุกสภาพแสง แถมไฟล์ขนาด 5MP ที่สามารถเอาไปใช้งานได้จริงๆ เห็นน้ำเกาะกลีบดอกไม้เป็นหยดๆ เลย

เกสรดอกไม้ที่เป็นเหมือน ขนๆ ริ้วๆ เล็กๆ แบบนี้ ก็สามารถจะเก็บรายละเอียดมาได้ดีมาก f/2.4 ของตัวกล้องทำให้มีระยะชัดทีเยอะทีเดียว สามารถที่จะถ่ายภาพสิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย

ระยะโฟกัสใกล้สุดๆ แค่ 1.5 cm - 2 cm ใกล้จัดเลย คนทำงานกับอะไรเล็กๆ อัญมณี นาฬิกานี่ ต้องชอบ

มาต่อกันที่กล้องหน้า ความละเอียด 20MP กันบ้างครับ

เรื่องความคมของภาพ ไว้ใจได้เลย ถึงแม้ว่า Pixel จะดูน้อยกว่า แต่ยังให้รายละเอียดได้ครบถ้วน การเกลี่ยผิว และการเก็บขอบของการละลายฉากหลัง ทำออกมาได้ดีในระดับเดียวกับกล้องหลังเลย

ในภาพแสงที่แตกต่างกัน ตัวกล้องหน้าก็ยังทำงานได้ดีครับ เก็บขอบผมได้เป็นเส้นๆ เลย

มาดูภาพถ่ายตอนกลางคืนกันบ้างครับ ว่า Night Mode ของ Xiaomi พร้อมโหมดการถ่ายภาพกลางคืนที่มีมาให้เยอะมากๆ จะทำได้ดีขนาดไหน ตัวไหนน่าสนใจบ้าง ไปชมกันเลยครับ

เรื่องความสว่าง ความคมนั้น Night Mode ของ Mi 10T Pro ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว มีการเพิ่ม Clarity เข้ามาบ้าง แต่ไม่ได้เยอะจนคุณภาพไฟล์เสีย

อย่างเดียวที่ดูจะเป็นข้อด้อย ใน Night Mode ของรุ่นนี้คือ มันไม่สามารถถ่ายด้วย กล้อง Ultra Wide Angle ได้ ซึ่งเอาจริงๆ น่าเสียดายนะ ภาพบางภาพเรารู้สึกว่ามันต้องใช้ Ultra Wide Angle จริงๆ อะ มันถึงจะสวย

มาดูภาพจาก Mode : Long Exposure กันบ้างครับ นี่คือ เราประเภท Neon Trails ลากเส้นไฟรถออกมาได้คมทีเดียว ถ้ามือนิ่งพอคุณสามารถที่จะถือถ่ายได้ แต่แนะนำว่า ขาตั้งเถอะครับ จะดีกว่า

ยังคงรู้สึกเสียดายที่ Mode นี้ก็ใช้ Ultra Wide Angle ไม่ได้ เศร้า เกือบจะสุดทางอยู่แล้ว มาติดตรงนี้ได้

Oil Painting สามารถเอามาถ่ายน้ำพุ หรือน้ำตกเห็นดูนุ่มนวลแบบนี้ได้นะครับ

Moving Crowed จริงๆ ต้องเอามาถ่ายภาพ คนเยอะๆ เดินไปเดินมา

หรือจะตั้งกล้องเองแล้วถ่ายเป็น คาถาแยกเงาพันร่างก็ทำได้ครับ

และเราสามารถ ใช้ Night Mode ในกล้องหน้าสำหรับการ Selfie ได้เช่นกันนะครับ

หรือวันไหนฟ้าไม่สวย ก็สามารถจะเปลี่ยนท้องฟ้าของเราได้ตามใจเลยครับ ตามภาพนี้

หรือแบบอะไรที่มันเหนือจินตนาการมากๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

วาปไปรถติดอยู่ Norway มีแสงเหนือ ก็ยังทำได้อะ

Overview & Opinion

สำหรับแก้วแล้ว ถือว่า Mi 10T Pro เป็น Smartphone ที่ Design เรื่องกล้องมาเป็นอย่างดี ออกแบบการใช้งานจาก Use case จริงๆ 108MP ที่สามารถหวังผลได้จริงๆ และเพิ่มเติมบางส่วนที่เป็นลูกเล่น ที่สร้างแต้มต่อให้กับตัวเองกับการแข่งขันในตลาดได้ดี อาจจะมีบางจุดที่น่าเสียดาย อย่าง Ultra wide ถ่ายกลางคืนไม่ได้ หรือไม่มีเลนส์ Telephoto แยกมาให้ แต่เพื่อแลกกับ CPU ความเร็วสูง และหน้าจอการใช้งานที่ลื่นไหล ในราคาแค่ 13,990 บาท ก็ทำออกมาได้คุ้มค่ามากแล้วครับ

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

IG : kaew.ravie

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page