สวัสดีครับ กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งนะครับทุกคน วันนี้แก้วอยู่กับ Smartphone ตัวโหดประจำปีนี้จากทาง OnePlus นั่นก็คือ OnePlus 9 Pro 5G นั่นเอง หมัดเด็ดของรุ่นนี้คือเรื่องของ การ Co - developed กับทาง Hasselblad แบรนด์ดังจาก สวีเดน นั่นเองครับ
OnePlus 9 Pro 5G Specification
CPU : Snapdragon 888 ( 5nm ) | GPU : Adreno 660
RAM : 12GB | ROM : 256GB
แบตเตอรี่ : 4500mAh ชาร์จไว Warp Charge 65T และ 50W Warp Charge
รันบน Android 11 และครอบทับด้วย Oxygen OS อันลือลั่น ในเรื่องความลื่นจากทาง Oneplus ครับ
นี่น่าจะเป็นฝาหลังที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาจาก OnePlus เลย สีที่แก้วได้มานี้เป็นสีที่มีชื่อว่า Morning Mist หรือหมอกยามเช้านั่นเอง เป็นการไล่ระดับของสี Grey กับ Gun Metal และครอบทับด้วยกระจก ทำให้มีการเล่น แสงที่สวย แต่ในขณะเดียวกันก็ดูหรูหรา และเรียบง่ายครับ
ในส่วนของหน้าจอนั้น ก็ เป็นแบบ AMOLED Fluid Display 2.0 (จอโค้ง) ขนาด 6.7” ความละเอียด QHD+ refresh rate 120Hz LTPO ที่สามารถจะบูสความละเอียดหน้าจอ สูงๆ แต่ยังคงความลื่นเอาไว้ได้ 120Hz ตลอดการใช้งาน
What's in the box อุปกรณ์ภายในกล่อง
ภายในกล่องจะมี Adapter Warp Charge 65W สายชาร์จ USB-C ยาวสัก 1 เมตรได้ สีแดงสวยงามมาก และเอกสารต่างๆ รวมไปถึงตัวเครื่องครับ สิ่งที่แก้วชอบที่สุดน่าจะเป็น Case ซิลิโคนนี่แหละ
เคสนุ่มมาก แต่แข็งแรง และโทนสีนี้เนี่ย สวยงามมาการเล่น Screen UV สะท้อนแสงในบนตัวเคสด้วย
Camera Specification | ชุดกล้องหลัง Hasselblad
กล้องหลัก : 4 ตัว
กล้องหลัก 48MP f/1.8
กล้อง Ultra Wide Angle 50MP f/2.2 * อันนี้ Highlight ครับของดีย์
กล้อง Tele 3.3x 8MP f/2.4
กล้อง Monochrome 2MP
มี Laser โฟกัส และไมค์มาวางอยู่บน Module กล้องหลังได้สวยงามมาก Layout ดูลงตัวทีเดียว
เอาล่ะ ไม่เสียเวลาดีกว่า เรามาดูภาพถ่ายจากทาง OnePlus 9 Pro x Hasselblad กันดีกว่าครับ
----
เริ่มกันที่กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 50MP กันก่อนเลยครับ นอกเหนือจากความละเอียดจะไว้ใจได้แล้ว ในสภาพแสงน้อย Perspective คือ สวยมาก ไม่โค้ง ไม่เบี้ยว แต่ Effect ของเลนส์ Wide อยู่ครบ ด้วย Technology Freeform Len
ภาพนี้อยากให้เพื่อนๆ ลองสังเกต เส้นแนวตั้งที่อยู่ตรงขอบภาพ จะเห็นได้ว่า เส้นตรงมาก ไม่มีอาการเบี้ยวของ ขอบภาพให้เห็นเลย ซึ่งด้วยจุดนี้เนี่ย ทำให้ ตัวนี้น่าจะเป็น กล้อง Ultra Wide Angle ที่ดีที่สุดในตลาด Smartphone อย่างไม่ต้องสงสัย
มาในส่วนของ Color Science กันบ้าง ที่ Collab กับ Hasselblad อยากให้เพื่อนๆ สังเกตเรื่อง Dynamic Range เป็นอันดับแรก ในส่วนที่เป็นเงามืด เราจะสังเกตเห็นรายละเอียดภายใต้เงานั้นได้ชัดเจน ส่วนที่เป็น Highlight ไม่ได้ถูกพยายามลดลง จนภาพเกิด Pixel Artifact การไล่ระดับของ สีสันในช่วงความสว่าง Smooth เนียนตาทีเดียวครับ
ด้วยกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้เนี่ย มีค่า f/2.2 ซึ่งค่อนข้างต่ำ ภาพนี้แก้วกดโฟกัสที่กลางภาพ ทุกคนจะสังเกตได้ว่า ด้านล่างตรงกลาง จะเกิด Depth จะเกิดมิติ ทำให้กล้องมุมกว้างตัวนี้ ไม่แบน
ในวันที่แดดจัดๆ เนี่ยสีท้องฟ้าสวยมาก HDR ช่วยขุดในส่วนที่มืดขึ้นมาเล็กน้อย ไม่เยอะจนมี Noise
กล้อง Ultra Wide Angle เอามาถ่าย Macro ได้แบบ สุดมาก ยิ่งถ้ากดเปิด 50MP ด้วย ดีงามเลย
ปกติมุมนี้ที่ Central Embassy เนี่ย ถ้ากล้อง Ultra Wide ไม่กว้างพอ มันจะเก็บ ได้ไม่ครบเท่านี้ จะได้แค่ช่องด้านบน แต่นี่เก็บได้ค่อนข้างครบเลย แถมไม่มี Distortion เลย
ถ้าเราวางตำแหน่งของกล้องให้อยู่ในระนาบที่เหมาะสม Ultra Wide Angle ของ OnePlus 9 Pro จะให้รายละเอียดของเส้นสายต่างๆ ในภาพได้ตรง ชัดเจน ขอบไม่ฟุ้งเลยครับ
สีดีคมกริบ Perspective กับ Dynamic Range โอเคมากๆ
พอเป็นภาพแนวตั้งเนี่ย ยิ่งเห็นชัดเจนเข้าไปใหญ่ ว่ามันกว้างและเส้นมันตรงขนาดไหน คนรักงานสถาปัตยกรรม กดถูกใจให้กับกล้องตัวนี้ 10 ครั้งเลยครับ
ภาพจาก Main Camera 48MP f/1.8
กล้องหลักที่ใช้ Sensor IMX 789 ของทาง OnePlus 9 Pro 5G เรียกได้ว่าเป็น Sensor ตัวล่าสุด อยู่ใน Tier บนแล้วในหมู่กล้อง Smartphone อย่าไปสงสัยว่า กล้อง Ultra Wide Angle Pixel เยอะกว่า จะต้องดูกว่า IMX 789 ให้รายละเอียดที่ดีกว่า IMX 766 อยู่ค่อนข้างมากเลยครับ
ส่วนสีของภาพที่หลายมองว่าจืด สำหรับแก้วว่า มันพอดีแล้วนะครับ นี่สีสดในระดับหนึ่งแล้วด้วย อาจจะเพราะว่า Contrast ของ OnePlus 9 Pro ในทุกๆ กล้อง ค่อนข้างจะจางๆ ทำให้เวลาดูภาพแล้ว ส่วนสีดำ มันไม่เข้ม เลยพาสีอื่นๆ ดูไม่สดไปด้วย
ลองเอา Mode Portrait มาใช้ในการถ่ายภาพวัตถุ ก็สามารถที่จะ ละลายฉากหลังได้ค่อนข้างเนียน สวยงามเลย การตัดขอบก็ถือว่าดีขึ้น แต่ความเห็นส่วนตัวว่า Bokeh ในระดับนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ Monochrome Camera ในการวัดระยะ ก็ได้นะ ใส่ตัวอื่นมาแทนจะดีกว่า
เอามาถ่ายย้อนแสง ดู HDR ในกล้องของ OnePlus 9 Pro ค่อนข้างจะเป็นในลักษณะ เติมแสง และลดแสง อย่างพอเหมาะ พอดี ไม่ได้พยายามขุดเงา ไม่ได้พยายามลด Highlight จนทำให้ภาพดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งอันนี้อยู่ที่ว่า ใครชอบแบบไหนนะครับ
มีคนบอกว่าถ่ายอาหารให้ดูหน่อยสิครับ เวลาทำรีวิว อะจัดไปครับ
ในส่วนของภาพ Portrait ความฉลาดของการวัดแสง ถือว่า ทำได้ดีมาก ไม่ต้องเอานิ้วไปแตะที่หน้าเลย รวมไปถึง Beauty Mode มีมาให้ปรับ 2 ระดับ ทำออกมาโอเคใช้ได้ ติดแค่เรื่อง Clarity และ Sharp ในภาพ มันอัดเยอะไปหน่อย สำหรับภาพ Portrait รายละเอียดผิว มันค่อนข้างจะแข็งไปนิดนึง สำหรับแก้วนะ
แต่ในเรื่องของการเก็บขอบ ละลายฉากหลัง ถือว่าผ่านเลย สวยงามมากครับ โบเก้กลมดี
กล้อง Telephoto 3x
มาดู Telephoto 3x กันบ้างครับ ที่ถือว่าเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดละ ใน OnePlus 9 Pro ตัวนี้ ในแง่ของความคม คือมันคมแหละ แต่มันดูมาจากการอัด Sharpen Software มากกว่า มาจาก Hardware ตรงๆ แต่สีสันคือว่าโอเค
ถึงแม้ความละเอียด Telephoto จะน้อยนิด แต่ในการใช้งาน แก้วว่ามันพอใช้ได้นะ ถ้าไม่เอาไปถ่ายคน เพราะ Sharp หนักมากจริงๆ เอาไปถ่ายตึก ถ่ายวิวเนี่ย พอได้
ระยะ Telephoto ที่เกินระยะกลาง ( 2x 50mm ) มานิดหน่อย มันก็มีประโยชน์เวลาอยากได้อะไรที่อยู่ไกลๆ แล้วก็มี Depth ที่ค่อนข้างสวยโอเคเลย Design Shot ใหม่ๆ ได้
Perspective แน่นอนว่า มันต้องตรงอยู่แล้วครับ การ Switch เลนส์ก็ทำได้ค่อนข้างไวดี แต่มีอาการสลับไป สลับมาอยู่บ้าง ถ้าตำแหน่งที่เราโฟกัส มันไม่เกิน 0.5-1.5 เมตร กล้องจะสลับกับกล้องหลักบ่อย
ในเรื่องของแสงเงา และสีสัน มันก็ทำออกมาได้ใกล้เคียงกล้องตัวอื่นๆ เลย แต่ Dynamic Range กล้องนี้จะแบนที่สุด ส่วนที่เป็นเงา จะจมหายไปเลยครับ เข้าใจได้เนาะ มันไม่ใช่กล้องใหม่อะ
สรุปในกล้อง Telephoto ตัวนี้ ไม่ใช่กล้องที่ดี แค่เป็นกล้องที่เอามาใช้งานได้ ในระดับราคานี้เท่านั้น พูดง่ายๆ คือ มีดีกว่าไม่มี เท่านั้นแหละครับ
Low Light Photography การถ่ายภาพในที่แสงน้อย
เป็นอีกจุดที่ทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจมาก คือ การถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ OnePlus 9 Pro ไม่ว่าจะ Night Mode หรือ กล้องปกติ สามารถให้ Mood & Tone ภาพใกล้เคียงกัน ไม่อัด Sharpen ไม่อัด Clarity เกินไป Contrast ก็ยังสวย Smooth เหมือนเดิม
ในส่วนของ Noise Reduction ทำได้ค่อนข้างเนียนทีเดียว แต่ถ้าเราซูมดูภาพ เราจะพบว่า Texture หรือรายละเอียดในส่วนของแต่ละ Pixel จะหลายไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้เละเป็นเหมือนสีน้ำ เหมือน Night Mode ใหม่ก่อนนะ
ในการถ่ายภาพกลางคืน ตัวนี้ก็น่าจะเป็น กล้อง Ultra Wide Angle ที่ถ่ายภาพกลางคืนได้สวยงาม อันดับต้นๆ ของปี 2021 แน่นอน Flare ของดวงไฟเป็นแฉก เติมแสงแต่พอเหมาะ ไม่อัดความคม จนภาพดูแข็ง
แล้วก็มี Filter สีสันมาให้เล่นค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ส่วนตัว รู้สึกชอบสีธรรมดามากกว่าครับ
มาดูกล้องหน้า ความละเอียด 16MP กันบ้างนะครับ
กล้องหน้าของ OnePlus 9 Pro น่าจะเป็นกล้องหน้าที่สาวๆ อาจจะไม่ชอบ เพราะ Sharp หนักมาก Detail ผิวแรงมาก คมมาก นี่เปิด Beauty Mode ช่วยแล้วนะครับ แต่นี่น่าจะเป็นกล้องที่ผู้ชาย ที่ชอบภาพ แมนๆ ชอบมากเช่นเดียวกัน โทนภาพมันดูมีความ Dramatic เยอะทีเดียว
ในภาพแสงที่เป็น ภายในอาคาร กล้องหน้าตัวนี้ก็ถ่ายออกมาได้ดูดีนะครับ การเบลอฉากหลัง ตัดขอบ เนียนกริบเลย สิ่งที่แอดมินสังเกต ในการเปลี่ยนแปลงของ Beauty Mode ในรุ่นนี้ คือการ เติมแววตา ให้กับคนถ่าย จะสั่งเกตว่า บริเวณตา จะ Sharp หนักกว่าตรงอื่น และแสงสะท้อนมากขึ้นกว่าตอน OnePlus 8T มากทีเดียว
ในภาพแสงน้อย ก็ทำได้ดี ถึงแม้จะเป็นกล้องลากใช้มานาน แต่พอใช้งานจริงๆ มันก็ยังไปต่อได้นะ แต่ก็ เปลี่ยนเถอะ ใช้มากี่ปีแล้ว 16MP ตัวนี้เนี่ย 555
การถ่าย Video | Video Quality
การถ่าย Video ของ OnePlus เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แก้วรู้สึก Surprise ทีเดียว มันสามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงถึง 8K แต่เราใช้กันจริงๆ 4K 60 Fps เนี่ยมันก็เหลือๆ แล้วนะครับ
ในส่วนของการกันสั่น OIS นี่ทำออกมาได้ดี น่าสนใจมากเลยครับ ใช้ได้ยัน 4K 60fps เลยนะครับ
ใช้งานกันมายาวๆ ทั้งวันพอมี Warp Charge 65W ใช้เวลา 30 นาทีนิดๆ ก็ได้ 100% แล้วครับ
Overview & Opinion
สำหรับ OnePlus 9 Pro 5G ในตัวนี้ แก้วมองว่า มันเป็น ก้าวแรก ที่ OnePlus ได้จับมือ กับ Hasselblad แล้วทำออกมาได้ดีไม่น้อยเลยนะครับ ในแง่ของการที่มีคนที่เชี่ยวชาญในเรื่องกล้อง เข้ามาดูแลเรื่องนี้ ยกระดับกล้องของ OnePlus ที่หลายคนมองว่าห่วย ให้มีที่ยืนในตลาด Flagship ได้อย่างสมศักดิ์ศรีมากทีเดียว
Color Science และ Free Form Len คือจุดขาย และจุดที่ทำได้ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ซึ่ง ที่บอกว่าทำได้ดี คือดีจริงๆ นะครับ Ultra Wide Angle คือ ยืนหัวแถวในวงการได้แบบหล่อๆ เลย ดีจริงๆ Distortion ไม่มีเลย คนถ่ายงาน สถาปัตยกรรม ถ่ายภาพวิว ต่างๆ ได้ลองแล้วจะรักเลย
Contrast และ Dynamic Range คือสิ่งที่ถูกยกระดับขึ้นมาจากรุ่นที่แล้วแบบ เห็นได้ชัดเจนมาก Contrast ที่ Smooth ไม่เข้มจนเสียรายละเอียด ช่วง Midtone และ Shadow ที่รักษา Detail ไว้ได้ดี กลายเป็นจุดแข็งหลัก ของรุ่นนี้ไปโดยปริยาย ส่วน Raw-12bit แก้วมองว่า เป็นแค่ กิมมิคแหละ ไฟล์ Raw Bit Rate สูงในกล้องมือถือ มันไม่ได้ฉีก Quality ได้ขนาดนั้น แต่ก็ดีใจ ที่ได้เห็นมัน ใน OnePlus ครับ
สำหรับ ราคา ยังไม่รู้ว่าจะเท่าไหร่ วางขายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 555 รอ OnePlus ไทยบอกอย่างเดียวเลยนะครับ
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie
Comments