top of page

รีวิว realme 14 Series 5G | สองรุ่น สอง DNA ที่ตอบโจทย์ชีวิตในมุมที่ต่างกัน

รูปภาพนักเขียน: แอดมินแก้วแอดมินแก้ว

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว และ สมาร์ทโฟนจากทาง realme กันอีกครั้งนะครับ สำหรับ realme No. Series ประจำปี 2025 อย่าง realme 14 Series 5G สร้างความแปลกใจให้แก้วไม่น้อยเลย จาก Lifestyle Phone เน้นดีไซน์ เน้นกล้อง realme ได้ Refresh รุ่นน้องสุดใน Series อย่าง realme 14 5G ให้กลายมาเป็น Midrange Performance Phone ได้อย่างน่าสนใจ ในขณะที่วาง realme 14 Pro 5G ให้ยังเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมอยู่ เดี๋ยววันนี้เรามาดูกันว่า ต่างกันขนาดนี้ ใช้งานจริงเป็นยังไง และแต่ละรุ่นจะเหมาะกับใครบ้าง ไปดูรีวิวกันครับ

SPECIFICATION

[ Processor ]

- realme 14 5G : Snapdragon 6 Gen 4

- realme 14 Pro 5G : Dimensity 7300E

[ RAM | Storage ]

- realme 14 5G : 12GB + 256GB/512GB

- realme 14 Pro 5G : 12GB + 512GB

[ Display ]

- realme 14 5G : 6.67 inches AMOLED Flat Display 120Hz | FHD+ | 120Hz | 2,000nits

- realme 14 Pro 5G : 6.7 inches AMOLED Curved Display | FHD+ | 120Hz | 4500nits

[ System & Software ]

- realme 14 5G : realme UI 6.0 | Android 15

- realme 14 Pro 5G : realme UI 6.0 | Android 15

[ Battery & Charging ]

- realme 14 5G | 45W SUPERVOOC Charge

- realme 14 Pro 5G | 45W SUPERVOOC Charge

[ Speakers ]

- realme 14 5G และ realme 14 Pro 5G จะได้ Stereo Speaker เหมือนกัน แต่คุณภาพเสียง ของ realme 14 Pro 5G จะดีกว่าอยู่พอสมควรนะครับ 

[ Connectivities ]

- realme 14 5G : USB-C 2.0 | Wifi6 | Bluetooth 5.2

- realme 14 Pro 5G : USB-C 2.0 | Wifi6 | Bluetooth 5.4

WHAT'S IN THE BOX
  • ตัวเครื่อง realme 14 5G | realme 14 Pro 5G

  • Case กันกระแทกแบบนิ่ม

  • USB-C Cable

  • Adapter Charge 45W

  • Sim card ejector | Manual Document

DESIGN งานออกแบบ

เรามาเริ่มกันที่การออกแบบตัวเครื่องของ realme 14 Series 5G กันเลยนะครับ ต้องบอกว่า ถึงแม้จะเป็น พี่น้องใน Series เดี๋ยวกัน แต่สไตล์การออกแบบนั้น แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตาม Position ที่ realme ตั้งใจวางมาเลย แก้วขอเริ่มที่ realme 14 5G ก่อนละกันนะครับ

realme 14 5G จะมาในลุคของ สมาร์ทโฟนสาย Performance สมาร์ทโฟน Gaming โดยสีที่แก้วนำมารีวิวจะมีชื่อว่า Mecha Silver ซึ่งการที่มีคำว่า Mecha อยู่ในชื่อ เพราะว่ามีการหยิบ Element ความเป็นหุ่นยนต์ ความเป็นเครื่องจักร มาใส่ในการออกแบบ ซึ่งทาง realme เรียกว่า Mecha Design ทุกคนจะเห็นลวดลายบนฝาหลังได้อย่างชัดเจน และมีมิติ ด้วยเทคนิค Lithography แบบพิเศษนั่นเอง

วัสดุของฝาหลังจะเป็นกระจกแบบด้านนะครับ ซึ่งอาจจะขึ้นรอยนิ้วมือได้ง่ายสักหน่อย เวลาที่มือเรามัน ๆ จุดที่แก้วชอบก็คือ เขามีการใส่ Accent สีส้ม มาตามจุดต่าง ๆ ของเครื่อง ช่วยเสริมลุคให้สมาร์ทโฟนดูซิ่งขึ้น สมกับความเป็น Performance Phone

และที่เป็น Highlight ที่สุด ก็คือ บริเวณหลังเครื่องจะมีไฟ Victory Halo Light ที่มาช่วยเติมเต็ม Look & Feel ความเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรง ให้ Completed มากขึ้น โดยไฟตรงนี้ จะเปลี่ยนไปตามการใช้งานในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ การเล่นเกม การรับสาย ไปจนถึงแจ้งเตือนต่าง ๆ เราก็สามารถทำได้

ทีนี้เรามาดู ดีไซน์ของตัวรุ่นพี่ อย่าง realme 14 Pro 5G กันบ้างครับ แน่นอนว่า มาใน DNA ที่เราคุ้นเคยกัน ก็คือ เน้นความหรูหรา เหมือนเดิม พวก Design Elements จากรุ่นที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Module กล้องวงกลม ตำแหน่งในการวางปุ่มกดต่าง ๆ เก็บไว้เหมือนเดิมเป๊ะ

แต่ที่มีความแตกต่างกันออกไปก็คือ วัสดุที่ทาง realme นำมาใช้ในการทำฝาหลัง จะเปลี่ยนมาเป็นกระจก แบบด้านแล้ว จากที่ใน Generation ก่อนหน้าจะเป็นหนังเทียม แต่บอกเลยว่าไม่ใช่กระจกธรรมดานะครับ เพราะ realme ได้มีการใส่ลูกเล่นเอาไว้ด้วย

ปกติแล้วสีตัวเครื่องของ realme 14 Pro 5G จะเป็นสีขาวมุก Pearl White แต่ถ้าเราถือไปใช้งาน ในที่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศา จะปรากฏ Effect ของสีฟ้า ขึ้นมาบนฝาหลัง ด้วยเทคโนโลยีเม็ดสีแบบพิเศษ ที่เรียกว่า Thermochromic ซึ่ง realme ได้นำมาใช้ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน เป็นแบรนด์แรกของโลก

สำหรับสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น Frame ตัวเครื่องเป็น Plastic เหมือนกันทั้งคู่ โดยที่ Frame เครื่อง ของ realme 14 5G จะเป็น แบบ Flat แต่ realme 14 Pro 5G จะเป็นแบบโค้ง 3D Curved ทั้งคู่ได้รับ IP Rating ในระดับที่เท่ากันเลย ก็คือ IP Rating IP68/69 โดย realme 14 5G จะสามารถลงน้ำได้ลึก 2.5 เมตร 30 นาที ส่วน realme 14 Pro 5G จะลงน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาทีครับ พวกงานสี งานประกอบต่าง ๆ ทั้งสองรุ่นก็ทำได้ดีตามระดับราคาของเขา

ด้านล่างตัวเครื่อง ก็จะมี Port USB-C 2.0 | ลำโพง | ไมโครโฟน | ถาดใส่ซิมแบบ Dual Sim ทั้ง 2 รุ่นไม่สามารถใส่การ์ดเพื่อเพิ่มความจุได้นะครับ ส่วนด้านบนตัวเครื่อง ก็จะมี ลำโพงอีกหนึ่งตัว และ Microphone อีกหนึ่งตัว ส่วนถ้าเป็น realme 14 Pro 5G จะมี IR Blaster มาให้ด้วยนะครับ และ ยังได้ 360° NFC อีกด้วยครับ

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

ทีนี้เรามาดูกันในเรื่องของหน้าจอกันต่อเลยนะครับ เริ่มกันที่ realme 14 5G ก่อนเลย ขนาดหน้าจอของ realme 14 5G จะมีขนาดอยู่ที่ 6.67 นิ้ว รูปแบบหน้าจอจะเป็นแบบจอแบน ใช้ Panel หน้าจอเป็น AMOLED รองรับ Content ที่เป็น HDR10+ มี Resolution อยู่ที่ FHD+ และ Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz มีข้อพิจารณานิดหนึ่ง ขอบจอด้านล่าง อาจจะมีหนาสักหน่อย

ส่วนหน้าจอ ของ realme 14 Pro 5G จะมีขนาดอยู่ที่ 6.7 นิ้ว รูปแบบหน้าจอ จะเป็นจอโค้งเหมือนกับ Generation ที่แล้ว Panel หน้าจอใช้เป็น OLED มีขอบเขตสีอยู่ที่ 1B รองรับ Content ที่เป็น HDR10+ Resolution หน้าจออยู่ที่ FHD+ และ Refresh Rate หน้าจอ เท่ากันกับรุ่นน้อง realme 14 5G เลยครับ

สำหรับเรื่องของการใช้งานทั่วไป การใช้งาน Social Media ไปจนถึงการรับชม Content Streaming จาก Platform ต่าง ๆ ต้องยอมรับว่าตัวรุ่นพี่ realme 14 Pro 5G นั้น จะให้ประสบการณ์การรับชมที่เต็มตากว่า เพราะได้จอที่ใหญ่ ขอบจอที่บางกว่า แต่ถ้าวัดกันที่คุณภาพการแสดงผล สีสัน และ Contrast แก้วรู้สึกว่า หน้าจอของ realme 14 5G จะให้ Contrast ที่สวยกว่าอยู่เล็กน้อยครับ

แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นคนที่ชอบในเรื่องของการเล่นเกม หลาย ๆ คนก็จะเลือก สมาร์ทโฟน ที่รูปแบบหน้าจอเป็น จอแบนอยู่แล้ว ทำให้ realme 14 5G นั้น มีภาษีที่ดีกว่าในเรื่องนี้ เวลาต้องกดปุ่มคำสั่งต่าง ๆ ตามขอบจอเวลาเล่นเกม ก็กดได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกลัวว่า Touch จะลั่นตามขอบจอด้วยครับ


ทีนี้แก้วอาจจะให้ข้อพิจารณาในส่วนของหน้าจอเอาไว้เล็กน้อยนะครับ เนื่องจากว่า เครื่องที่แก้วนำมาทดสอบให้ทุกคนได้ดูกัน เป็นเครื่องของต่างประเทศ ซึ่งพบว่า เวลาเราดู Content ว่า Netflix ถึงแม้จะได้ความละเอียดสูงสุดที่ HD แต่ไม่สามารถแสดงผล Content ที่เป็น HDR ได้ แต่บน YouTube กลับสามารถแสดงผล Content ที่เป็น HDR ได้ เลยไม่แน่ใจว่าจะเป็นจาก Software หรือเปล่า เดี๋ยวถ้าได้จับเครื่องขายจริงของไทยแล้ว แก้วจะมา Edit ในส่วนนี้ Update ให้นะครับ

ส่วนความลื่นไหล ในการ Touch ของหน้าจอ ก็ถือว่าติดนิ้วดีทั้งคู่ เวลาไถหน้า Feed ข่าว , Social Media ต่าง ๆ ก็ Smooth ดี น่าจะเพราะ realme UI 6.0 ที่อัพเดตปรับปรุงเรื่องนี้มา ซึ่งสำหรับแก้วถือว่าดีมาก Design Icon | Design Control Station ดูดี และใช้งานได้สะดวก การสื่อสารด้วย Symbol ของ Icon ต่าง ๆ ก็เข้าใจได้ไม่ยาก นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือก ปรับแต่ง Shortcut ต่างๆ ได้อย่างอิสระอีกด้วย

ความสว่างหน้าจอสูงสุดแบบ HBM ของ ทั้ง 2 รุ่นจะอยู่ที่ 1000nits - 1200nits ถึงแม้ตัวเลขอาจจะดูน้อยกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันบางรุ่น แต่เมื่อใช้งานจริง ก็ให้ความสว่างที่เพียงพอในทุก ๆ สภาพแสง มองเห็นได้ใช้ แม้จะอยู่ในที่ที่เป็น Outdoor ก็ตาม อีกหนึ่งจุดดีที่แก้วเจอก็คือ ถึงแม้จะใช้งานกลางแจ้งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ แต่แสงหน้าจอนั้น ก็ ไม่ Drop ลงมาเลย น่าจะมาจากระบบระบายความร้อนใหม่ ที่ทั้ง 2 รุ่นนี้ได้รับการ Upgrade เข้ามาครับ

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

ทีนี้ก็ได้เวลาที่เราจะมาพูดถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันแล้วนะครับ ในปีนี้ต้องยอมรับกันว่า Hardware ชุดกล้องของ realme 14 Series 5G ทั้ง 2 ตัวนั้น ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ ไม่ต้องเทียบกับคู่แข่งก็ได้ แค่เทียบกับ realme 12 Pro+ ที่ขายเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังห่างชั้นกันอยู่ เราไปดู Spec กล้องกันก่อนเลยครับ

realme 14 5G

  • MAIN CAMERA 50MP | f/1.8 | 2-axis OIS

  • FRONT CAMERA 16MP | f/2.4 | 2-axis EIS

realme 14 Pro 5G

  • MAIN CAMERA 50MP | IMX882 | f/1.8 | Lossless Zoom 2x

  • FRONT CAMERA 16MP | f/2.4 | 2-axis EIS

  • MagicGlow Triple Flash system


ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันไปนะครับ ว่า realme No. Series ในปีนี้ เราจะมีกล้องที่สามารถใช้ในการบันทึกภาพได้เพียง 2 ตัวเท่านั้น ก็คือ กล้องหลัง 1 ตัว และ กล้องหน้า 1 ตัว เราจะเห็นว่า realme เองพยายามใส่ลูกเล่นเข้ามาทดแทนส่วนที่หายไป ไม่ว่าจะเป็น Soft Light ที่ให้ฟีลภาพฟุ้ง ๆ เหมือนใส่ Filter Black Mist

หรือ จะเป็นไฟ MagicGlow Triple Flash ไฟแฟลช 3 ดวงที่ช่วย Balance อุณหภูมิสีของผิว เวลาที่เราถ่ายภาพ Portrait ในเวลากลางคืน

อีกหนึ่งอย่างที่ทาง realme ใส่เข้ามาให้ ก็คือ Filter สีแบบ Film ที่มีมาให้ใช้กันพอสมควร พอจะแก้เบื่อไปได้บ้าง งั้นเราไปเริ่มดูภาพจากกล้องแต่ละตัวกันดีกว่าครับ

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 50MP | realme 14 5G

เรามาเริ่มกันที่กล้องหลักของ realme 14 5G กันก่อนเลยนะครับ สำหรับลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพของ realme 14 5G นั้น จะเน้นความง่าย ความสำเร็จรูปเป็นหลัก มีสีสันที่ดูสด ดูอิ่ม และมีการเติม Sharpness เข้ามาให้ภาพดูคมชัด ในระดับที่กำลังพอดี ไม่มากจนเกินไป

ส่วน Dynamic Range ของภาพ สำหรับแก้วถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ได้กว้างเท่ากับระดับเรือธง ซึ่งไม่แน่ใจว่า Sensor ที่เขาใช้เป็นรหัสไหน จากแบรนด์อะไร แต่จากประสบการณ์ที่ใช้ถ่ายมา แก้วแนะนำให้เปิด Auto HDR เอาไว้ตลอดจะดีกว่า เพราะว่าถ้าเจอสภาพแสงยาก ๆ มีโอกาสที่ Highlight จะหลุดได้ง่ายเหมือนกันครับ

การวัดแสงของกล้อง หรือ Auto Exposure นั้น จะค่อนข้างวัดออกมาในระดับที่ Over นิด ๆ ซึ่งก็จะมีข้อดี คือทำให้ Detail ในส่วนเงาไม่ดูจมจนเกินไป แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Sensor ตัวนี้ Highlight หลุดค่อนข้างง่าย ต้องเปิด Auto HDR ช่วย Balance แสงเอาไว้ตลอด ส่วน Auto White Balance ในสภาพแสงปกติ ถือว่าแม่นยำใช้ได้ แต่มี Issue หนึ่งที่แก้วเจอ เวลา Crop Zoom 2x เข้าไป WB จะค่อนข้างเทไปทางโทนอุ่นครับ

Depth of field หรือ การละลายฉากหลังของกล้องหลักตัวนี้ อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ได้เบลอหลังได้ละลายสวยเป๊ะ เหมือนกับ Sensor ในรุ่นพี่ที่เป็นเรือธง อย่าง realme GT7 Pro แต่มีข้อดีที่เราสามารถเข้าใกล้วัตถุได้มากกว่ารุ่นที่ Sensor ใหญ่ ๆ พอใช้กับการ Crop Zoom 2x ก็จะได้มิติในการเบลอฉากหลังที่มากขึ้นครับ

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 50MP | realme 14 Pro 5G | IMX882

ทีนี้มาต่อกันที่กล้องหลักจาก realme 14 Pro 5G กันบ้างนะครับ โดยตัวนี้จะใช้ Sensor จากทาง Sony เป็น IMX882 ที่เราอาจจะพอคุ้นชื่อกันมาบ้าง เพราะเป็น Sensor ที่ใส่อยู่ในสมาร์ทโฟนเรือธงหลาย ๆ ตัวเหมือนกัน สิ่งแรกเลยที่ realme 14 Pro 5G ทำได้ดีกว่า คือ ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพ ที่ถึงแม้จะเน้นสำเร็จรูป เน้นง่ายเหมือนเดิม แต่มีไฟล์ภาพที่ดูธรรมชาติกว่า และ Dynamic Range ที่กว้างกว่า

ตัว Software Auto HDR สามารถ Balance รายละเอียดในส่วนสว่าง และส่วนมืดได้กำลังพอดี ไม่ขุดส่วนมืดขึ้นมาจนภาพดูแบน และไม่ปล่อยให้ Highlight หลุด ดึง Detail ส่วนท้องฟ้ากลับมาได้กำลังพอดี ที่สำคัญจัดการจุดรบกวน หรือ Noise ได้ดีกว่าตัวรุ่นน้องแบบรู้สึกได้

ส่วน Depth of field ของกล้องหลักตัวนี้ สำหรับแก้ว ถือว่า พอ ๆ กับตัวรุ่นน้อง realme 14 5G เพราะว่า ขนาด Sensor อยู่ที่ 1/1.95 ซึ่งมีขนาดกลาง ๆ ไม่ได้ใหญ่มากนัก ซึ่งก็จะมีข้อดีเหมือนกับรุ่นน้องว่า สามารถเอาหน้ากล้องเข้าใกล้วัตถุได้มากกว่า Sensor ขนาดที่ใหญ่กว่านี้ ก็สามารถจะทดแทนในเรื่องของการถ่ายภาพละลายฉากหลังไปได้อยู่ครับ

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

เรามาต่อกันที่การถ่ายภาพ Portrait กันบ้างนะครับ เรื่องนี้ realme 14 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นนั้น จะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร อย่างแรกก็คือ ระยะในการถ่ายภาพ Portrait สำหรับ realme 14 5G นั้น เราสามารถถ่ายได้แค่ระยะเดียวเท่านั้น ก็คือ 1x

ส่วน realme 14 Pro 5G นั้น เราสามารถถ่ายภาพ Portrait ได้ทั้งหมด 2 ระยะ ก็คือ 1x และ 2x ครับ ซึ่งต้องบอกว่าเรื่องนี้ทำได้ดีนะครับ เวลาเราใช้ระยะ 2x ที่เป็นการ Crop Zoom เข้าไปเพื่อถ่ายภาพ Portrait ยังรักษาคุณภาพไฟล์เอาไว้ได้ดี

Skintone เวลาเราถ่ายภาพ Portrait ก็เป็นอีกจุดที่ทั้ง 2 รุ่นนั้น มีความแตกต่างกัน โดย realme 14 5G จะมีสีสันของผิวที่ดูสดกว่า และ สีผิวจะออกแดง ๆ ส่วน realme 14 Pro 5G การ Process Skintone จะดูธรรมชาติกว่า ไม่เร่งสีผิวขึ้นไปเยอะ และโทนสีผิวก็จะค่อนข้างตรงกว่า ไม่ได้ออกสีแดงเหมือนกับรุ่นน้อง realme 14 5G นะครับ

Bokeh Simulation หรือ Software ในการละลายฉากหลัง ของทั้ง 2 ตัวนี้ สำหรับแก้ว ถือว่าแม่นยำดีทั้งคู่ สามารถจำลอง Bokeh ขึ้นมาได้สวย Shape Bokeh ดูเป็นธรรมชาติมากกว่ารุ่นก่อนหน้า การไล่ระดับความเบลอ ตามระยะห่างของฉากหลังก็ทำได้ดี มีความใกล้เคียง realme GT7 Pro เลย

พวกการเก็บปลายผมต่าง ๆ ถ้าฉากหลังไม่รกมาก หรือ Detail เยอะจริง ๆ สามารถเก็บปลายผมได้คมสวย ระดับของการเปิด Bokeh ที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ดูลอย แก้วแนะนำให้ปรับที่ f/2.8 - f/5.6 แล้วแต่ว่าระยะห่างของฉากหลังนั้น ไกลมากน้อยแค่ไหน

อันที่ค่อนข้าง Surprise และคิดว่า สาว ๆ หลายคนน่าจะชอบ คือการถ่าย Portrait ย้อนแสงให้ ซึ่งทั้ง 2 รุ่น สามารถ Balance แสงส่วนใบหน้าตัวแบบได้ดี ไม่ดูมืดเกิน และไม่ดูสว่างจนผิดธรรมชาติ การเก็บปลายผมเวลาถ่ายภาพย้อนแสงก็ทำได้ดี

แล้ว แก้วได้ลองเอา Feature Soft Light ที่คล้าย ๆ กับ Black Mist Filter ที่ตอนถ่ายออกมาแล้วแสงจะฟุ้ง ๆ มาใช้ร่วมกับ สถานการณ์นี้ ภาพที่ออกมาก็ได้ลุคที่เหมือนกล้องฟิล์ม เอาไปลง Social แบบแกรม ๆ ได้ดูแตกต่าง ไม่ซ้ำใครดี

PORTRAIT PHOTOGRAPHY WITH MagicGlow

ทีนี้ เรามาลองใช้ Magic Glow Triple Flash ตัวนี้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยกันบ้าง ต้องบอกว่า นี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลย ที่ realme ให้พลังของแสง Flash มาสว่างขนาดนี้ ทำให้การถ่ายภาพ Portrait ในที่แสงน้อยนั้น ทำได้ง่ายมากขึ้น ได้คุณภาพไฟล์ที่ดีมากขึ้น

จากที่แก้วได้ลองใช้งานมา กำลังของไฟแฟลช ถือว่าค่อนข้างแรงเลย และเพียงพอต่อการที่เราจะใช้งาน Mode Portrait ได้ในทั้ง 2 ระยะแบบไม่ต้องกลัวว่า แฟลชมันจะไม่ถึง

นอกเหนือจากเรื่องของความสว่างที่ไฟแฟลชทั้ง 3 ดวงนี้ให้เราได้ คือ การแก้ Skintone ที่เพี้ยน เวลาเราไปเจอสภาพแสงที่มันมี แสงไฟ Ambience แสงแปลก ๆ เข้ามารอบ ๆ ให้สีผิวกลับมาตรง โดยมีเคล็ดลับก็คือ พอเขามีแสงไฟ 2 สีที่ยิงออกไปพร้อมกัน ทำให้สีผิวที่กลับมา จะไม่ได้สว่างแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะได้ความอิ่มของสีผิว จากไฟที่เป็นโทน Warm มาด้วยนั่นเองครับ

LOW LIGHT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพในที่แสงน้อย

มาต่อกันที่การถ่ายภาพในที่แสงน้อยกันบ้างนะครับ สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ realme 14 Series 5G นั้น ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพที่ออกมาของทั้ง 2 รุ่นนั้น ค่อนข้างจะคล้ายกัน ก็คือ จะมีการเติม Clarity | เติม Sharpness เข้าไปในภาพ เร่งสีสันให้สดขึ้น ไม่ได้เพิ่มความสว่างในภาพขึ้นมามากนัก เน้นคุมแสงจากหลอดไฟ ไม่ให้ Highlight หลุดมากกว่า

ทำให้ภาพถ่ายในช่วงกลางคืนที่ออกมานั้น ยังดูเป็นกลางคืนอยู่ ไม่ดูสว่างจนเป็นกลางวันอะไรแบบนั้น ทีนี้จะมีความต่างกันอยู่เล็กน้อย สำหรับ Low Light Photography ในทั้ง 2 รุ่นนี้ คือ การจัดการ Noise หรือจุดรบกวนในภาพครับ

ซึ่งที่ค่อนข้างน่าแปลกใจคือ การจัดการ Noise ใน realme 14 5G รุ่นน้องนั้น ทำได้ดีกว่า realme 14 Pro 5G ในแบบที่สังเกตเห็นได้ ถึงแม้ Sensor กล้องถ่ายภาพ ของรุ่น Pro จะดีกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่า ISP หรือ หน่วยประมวลผลภาพที่อยู่ใน Snapdragon 6 Gen 4 ตัวนี้ ส่งผลต่อภาพมากกว่า Tier ของ Sensor จริง ๆ

เวลาที่ใช้ในการลาก Shutter ของทั้ง 2 รุ่นถ้าสภาพแสงไม่ได้มืดมากนักพอจะมีแสงจากหลอดไฟอยู่บ้าง จะอยู่ที่ประมาณ 1 วินาที ไม่เกินนี้ครับ แต่ถ้าที่ที่แบบ มืดจริง ๆ ไม่มีแสงจากหลอดไฟเลย ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 - 3 วินาที ตอนถือถ่ายก็มือนิ่ง ๆ สักนิดหนึ่งนะครับ

และสุดท้าย ในทั้ง 2 รุ่น ได้มีการใส่ Mode Long Exposure มาให้เราใช้งานด้วย ใครชอบถ่ายแบบลากเส้นไฟสวย ๆ หรือชอบถ่ายฝูงชน น้ำพุ น้ำตกให้มันพริ้ว ๆ ก็สามารถจะใช้ Mode นี้ได้ แหละ Render Motion ต่าง ๆ ออกมาได้สวยใช้ได้เลยนะ

RAW File Performance : ประสิทธิภาพของ RAW File

เรามาต่อกันที่ RAW File Performance ใน realme 14 Series 5G กันบ้างนะครับ ทั้ง 2 รุ่นสามารถใช้งาน RAW File ในรูปแบบ Sensor RAW ได้ในกล้องหลักเท่านั้น โดยสามารถเข้าใช้งานได้จาก Mode Pro นะครับ

สำหรับในเรื่องของ คุณภาพไฟล์ และความยืดหยุ่นในการใช้งาน ต้องบอกว่า realme 14 Pro 5G นั้น ทำออกมาได้ดีกว่าพอสมควร โดยเฉพาะ Dynamic Range ที่เก็บส่วน Highlight มาได้มากกว่า และ Detail ในส่วนมืด เวลาเอามาขุดไฟล์ต่อนั้น จะเจอ Noise ได้น้อยกว่า แต่ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกับ สมาร์ทโฟนระดับกลางที่ถ่าย RAW ได้ตัวอื่นในตลาด RAW ของ realme 14 Pro 5G ก็ยังมี Noise ที่มากกว่าอยู่ดีนะครับ

จากที่แก้วได้เอาไปลองใช้งานมา สำหรับแก้ว ถ้าเราถ่ายใน Scene ที่ไม่ได้มีสภาพแสงยาก ๆ หรือมีความต่างกันในเรื่องของสภาพแสงมากๆ ใน Frame เดียวกัน ก็คือว่า เป็น RAW File ที่เรานั้นพอจะคาดหวังในการใช้งานได้อยู่

แต่ถ้าใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการ Process RAW File มากนัก อาจจะทำงานกับเขายากสักนิดหนึ่ง เพราะจุดรบกวนค่อนข้างเยอะ และมีทั้ง Luma Noise | Color Noise ซึ่งเป็นอุปสรรคพอสมควรในการตกแต่งภาพ แนะนำว่า ถ่ายเป็น JPEG ใน Mode Auto ดีกว่าครับ

FRONT CAMERA : กล้องหน้าความละเอียด 16MP

กล้องหน้าของ realme 14 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น จะให้ Spec กล้องแบบเดียวกัน โดยจะใช้ Sensor ที่มีความละเอียดอยู่ที่ 16MP และรูรับแสงกว้าง f/2.4 แบบ Fix Focus ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานกล้องหน้าของ สมาร์ทโฟน ในระดับราคานี้ อาจจะดูไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก

แต่เวลาใช้งานจริงแล้ว ถือว่ากล้องหน้าตัวนี้ ให้คุณภาพ ของภาพถ่ายในแบบที่เราคาดหวังได้ทีเดียวนะ ทั้งในเรื่องของ Skintone การ Process ผิวของ Beauty Mode ที่ให้ความสวย เรียบเนียน แต่ไม่ได้ Beauty จนดูหลอกตา

Software ในการทำ Bokeh Simulation หรือละลายฉากหลัง ก็ทำออกมาได้ดี การเก็บขอบเส้นผมต่าง ๆ ทำได้แม่นยำพอ และ ที่แก้วค่อนข้างประทับใจเลย คือ ลักษณ์ในการ Render Bokeh ขึ้นมา ดูเป็นธรรมชาติมาก มีการไล่ระดับตามระยะห่างของฉากหลัง ที่ถึงแม้อาจจะไม่ได้ดูเนียนตาเท่า Portrait Mode ในกล้องหลัง แต่สมาร์ทโฟนบางตัว ในระดับราคานี้ ตัดขอบไม่คมก็ยังมีให้เห็น

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ

ทีนี้มาดูกันที่การถ่าย Video กันบ้างนะครับ เรื่องนี้ต้องบอกว่า realme 14 Pro 5G จะมีความเก่ง ฉีกจากตัวรุ่นน้องอย่าง realme 14 5G แบบชัดเจนเลย เริ่มที่ Resolution ก่อนเลย ทั้ง 2 รุ่น สามารถจะถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps เหมือนกันก็จริง แต่ Bitrate ของ Video นั้น realme 14 Pro 5G จะให้ Bitrate สูงสุดถึง 100mbps เลยทีเดียว มากกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงบางตัวเอง ส่วน realme 14 Pro 5G นั้น Bitrate จะอยู่ที่ 41mbps เท่านั้น


นอกจากนั้น การ Process เนื้อไฟล์วีดีโอ realme 14 Pro 5G ก็จะมีความคมชัดกว่า ความต่อเนื่องของ Exposure และ White Balance ก็จะมีความนิ่งกว่ามาก ๆ คือ ถ้าเราดู Preview ในจอเราอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างได้มากนัก แต่ถ้าเอามาเปิดบนจอที่ Resolution 4K จะเห็นความต่างได้ชัดเจนเลยครับ


ส่วนในเรื่องของระบบโฟกัส ถ้าในสภาพแสงปกติ อยู่ในที่สว่าง ๆ หรือถ่ายในช่วงกลางวัน การโฟกัสทำได้ดีทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นการถ่ายย้อนแสง หรืออยู่ในสภาพแสงน้อย สิ่งที่แก้วเจอ ทั้ง 2 รุ่น จะมีอาการ Focus Hunting หรือ โฟกัสวูบวาบ อยู่บ้าง ซึ่งเครื่องขายจริงอาจจะไม่เป็นก็ได้นะ เพราะแก้ว Test บนเครื่อง Prototype ครับ


ส่วนการกันสั่นในการถ่าย Video นั้น ถ้าเรายืนถือถ่ายนิ่ง ๆ หรือมีการแพนกล้องไปมา ความนิ่งที่ได้สำหรับแก้วคือ พอ ๆ กัน แต่ถ้าเราต้องเดินไปถ่ายไปเมื่อไหร่ realme 14 Pro 5G จะดีกว่าทันที สามารถประคองเฟรมให้นิ่งได้ แม้จะเดินถือถ่ายด้วยมือข้างเดียว อันนี้ทำออกมาได้ดีจริง ๆ

PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ

จบพาร์ทกล้องถ่ายภาพกันไปแล้ว เรามาต่อกันที่ Performance ตัวเครื่องของ realme 14 Series 5G กันบ้างนะครับ ตามที่ทุกคนได้เห็น Spec ของ SoC ในทั้ง 2 รุ่นกันไปแล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า ถ้าเราเน้น Performance ตัวเครื่องจริง ๆ จะต้องไปที่ตัวไหน . . . ซึ่งก็อย่างที่ทุกคนคิดครับ Overall Performance ในทุกด้าน Snapdragon 6 Gen 4 จาก realme 14 5G ทำได้ดีมากกว่า


แต่ถ้าเป็นเรื่องการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Social Media | App Chat ต่าง ๆ ไปจนถึง Application จากทาง Google ที่เราใช้ในการทำงาน Dimensity 7300E ก็มีประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับ Task ลักษณะนี้ไม่แพ้ Snapdragon 6 Gen 4 เลยครับ

หรือ จะเป็นการใช้งานที่หนักขึ้นอีกสักหน่อย เช่นการใช้งานแบบ Multi-tasking มีการแบ่งจอ หรือเปิด Application พร้อม ๆ กันหลาย ๆ อัน SoC ทั้งสองตัวก็ให้ความลื่นไหลในการใช้งานได้ดี ไม่ต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญอะไร

แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของการเล่นเกม อันนี้ต้องยอม Snapdragon 6 Gen 4 ใน realme 14 5G จริง ๆ อย่างเกมที่แก้วไปลอง Test มา ( ในการ Test เปิด GT Mode ทั้งคู่เลยนะครับ ) ไม่ว่าจะเป็น Night Crow | Archage Wars | Legend of Neverland ที่เป็น MMORPG Graphic โหด ๆ หน่อย สามารถจะปรับ Graphic Setting ได้ในระดับ High - Ultra แตได้ Frame Rate ที่ 50FPS แทบจะตลอดเวลา

แต่ถ้าเป็น realme 14 Pro 5G นั้น เราจำเป็นจะต้อง ลด Graphic Setting ลงมาในระดับ Low - Medium ถึงจะได้ประสิทธิภาพในการเล่นเกม เท่ากับ Snapdragon 6 Gen 4 ในตัวรุ่นน้อง และยิ่งเมื่อเล่นต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ Frame Rate โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ 30FPS เท่านั้น

ส่วนถ้าใครเป็นสาย Free Fire อยู่แล้ว เป็น Official Partner กับ realme ทั้งที แก้วขอแนะนำ ให้ตรงไปที่รุ่น realme 14 5G ทันทีเลย ได้ Frame Rate ที่ลื่น 120FPS จริง ๆ บน Graphic Setting ระดับสูงสุด ยิ่งเล่นลื่น ก็ยิ่งได้เปรียบนะ

ส่วนในเรื่องของ Battery Life ทั้ง realme 14 5G และ realme 14 Pro 5G สามารถใช้งานได้แบบจบวันสบาย ๆ ด้วย Battery ขนาดใหญ่ และ การจัดการพลังงานที่ดี ช่วยให้ การใช้งานแบบ Daily Use ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และการนำมาใช้เล่นเกม ก็สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง ได้แบบสบาย ๆ

AI Features : การใช้งานฟีเจอร์ AI

AI Features ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ทาง realme ได้หยิบยกมาจากสมาร์ทโฟนเรือธงของตัวเอง เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วอย่าง realme GT7 Pro มาใส่ให้ Midrange ของตัวเองแบบเต็ม ๆ ไม่กั๊กเลย พวกฟีเจอร์ AI พื้นฐานอย่างการลบวัตถุ การลบคน มีให้ครบถ้วนเหมือนเดิม

ในรุ่นนี้ได้มีการเพิ่ม ฟีเจอร์ AI ที่ช่วย ทำให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น อย่าง AI Clear Face มาให้ด้วย ทางทีเราเผลอถ่ายภาพมาแล้วมือสั่น หน้าแฟน หน้าเพื่อนเราเบลอ ก็สามารถมาใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยได้ แต่อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของ Identity นิดหนึ่งนะครับ เพราะเป็น Generative AI บางครั้งเวลา Gen ขึ้นมา หน้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้เล็กน้อย

นอกจากนั้นก็จะมี AI Smart Loop 2.0 ที่เราสามารถ ใช้งานร่วมกับ Application อื่นได้ เช่น เราสามารถลากไฟล์ภาพถ่ายจากใน Gallery App ข้ามไปที่ Gmail หรือ App Chat ต่าง ๆ เพื่อส่งให้เพื่อนได้แบบ Seamless หรือ เราอ่านรีวิวร้านอาหารอยู่ สนใจอยากไป สามารถลากชื่อร้านอาหาร ไปเชื่อมต่อกับ Google Map เพื่อนำทางได้ในทันที สะดวกมาก ๆ ครับ

และ อันสุดท้าย Circle to Search ที่พวกเราคุ้นชินกับการใช้งานในการ Search หาข้อมูลต่าง ๆ กันอยู่แล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีให้ใช้งานครับผม

OVERVIEW & OPINION

สำหรับแก้วแล้ว realme 14 Series 5G นั้น เป็นเหมือนแฝดที่เกิดมาพร้อมกัน แต่มี Character และ DNA ที่แตกต่างกันชัดเจน ซึ่งเราจะเห็นได้ตั้งแต่ Design ตัวเครื่องภายนอก ที่ realme 14 5G ก็จะมีความ Gaming มาก ๆ จาก Design แบบ Mecha ส่วน realme 14 Pro 5G ก็ยังคงสไตล์ของความเป็น Lifestyle Phone ที่ดูหรูหรา จาก Generation ก่อนหน้าเอาไว้เหมือนเคย แต่เสริมลูกเล่น การเปลี่ยนสีฝาหลังด้วยเทคนิค Thermochromic จากสีขาวมุก มาเป็นสีฟ้าน้ำทะเล

ถ้ามองในมุมของ Performance ตัวเครื่อง แน่นอนว่า realme 14 5G ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 6 Gen 4 นั้น จะดูมีภาษีที่ดีกว่าในการใช้งานทั้งในองค์รวม และ การใช้งานที่เน้นไปที่การเล่นเกม ซึ่งพอใช้งานมาจริง ๆ แล้ว มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ สามารถเล่นเกม แบบ High Graphic อย่าง Archage War | Night Crows ที่สร้างจาก Unreal Engine ได้ใน Graphic Setting ระดับสูง ด้วย Frame rate เกิน 50FPS นิ่ง ๆ ได้สบาย


ส่วน realme 14 Pro 5G ถึงแม้ อาจจะสู้รุ่นน้องในแง่ของการเล่นเกมไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน การเอามาใช้เล่น Social Media ตอบแชท ใช้ App G Suite ของ Google หรือ Entertainment ในระดับทั่วไป Dimensity 7300E ก็เพียงพอต่อการใช้งาน และยังมี ลำโพงคู่ กับหน้าจอที่ยอดเยี่ยมกว่ารุ่นน้องอีกด้วย


ส่วนในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ด้วยความที่ realme No. Series ใน Generation ก่อนหน้านั้น สร้างมาตรฐานในใจแก้วไว้สูงมาก ๆ ทุกคนน่าจะจำกันได้ อย่าง realme 12 Pro+ ที่มีกล้อง Periscope Telephoto Zoom 100x มาให้ พอมาเป็น Generation นี้ แก้วเลยมองว่าค่อนข้างธรรมดา แต่ยังดีที่มีการเสริม ฟีเจอร์การถ่ายภาพใหม่ ๆ เข้ามาให้ พอจะเป็นสีสันในการใช้งานอยู่บ้างครับ

ราคาวางจำหน่าย realme 14 Series 5G

realme 14 Series 5G วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น

  • realme 14 5G | 12GB + 256GB : 11,999 บาท

  • realme 14 5G | 12GB + 512GB : 13,999 บาท

  • realme 14 Pro 5G | 12GB + 256GB : 14,999 บาท

 

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer    IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร

Comments


  • White Facebook Icon
  • White Instagram Icon
About us

MobilePhotographer คือ Community ของคนชอบถ่ายภาพ ด้วยมือถือ มี Content | Review Smartphone | Review ท่องเที่ยว | รวมไปถึง Photography Tips เพียบ

 

Read More

 

Follow us on
  • White YouTube Icon
  • White Facebook Icon

© 2017 by MobilePhotographer | ประเทศไทย | Email : sitthikitrv@gmail.com 

bottom of page