แอดมินแก้ว

24 ม.ค.ยาว 4 นาที

realme C67 | ราคาหลักพัน ที่ยกฟีเจอร์ถ่ายภาพจาก Mid-range มาแบบแน่นจัด ๆ

สวัสดีครับทุกคนกลับมาเจอกับแก้ว และ Smartphone จากทาง realme กันอีกครั้งหนึ่งนะครับ วันนี้เราอยู่กับ Smartphone ระดับ Entry Level ที่ทาง realme อย่าง realme C Series ที่มักจะยกฟีเจอร์ และเทคโนโลยีใหม่ จากรุ่นพี่ มาใส่ให้แบบอัดแน่น การกลับมาในปีนี้ จะยังเป็น A Champion of The Segment อยู่หรือเปล่า ? ไปดูรีวิวกันครับ

WHAT'S IN THE BOX

ตัวเครื่อง realme C67
Silicone case
USB-C to USB-A Cable
Adapter 33W SUPERVOOC
เข็มถอดถาดใส่ซิม
User Manual

SPECIFICATION

Chipset : Snapdragon 685 4G (6nm)
RAM 8GB + 8GB | ROM 128GB + microSD 2TB
Display : 6.72-inch IPS LCD | FHD+ | 90Hz
Operation system : Android 14 (realme UI 4.0)
Stereo Speaker ( คุณภาพค่อนข้างดี )
Bluetooth 5.2 | USB Type-C 2.0 | Wifi5 | AUX 3.5mm
Battery 5,000mAh | 33W SUPERVOOC Charge

DESIGN : การออกแบบ

งานออกแบบของ realme C67 นั้น ค่อนข้างจะมีความแตกต่างไปจากรุ่นพี่ในค่ายตัวเองค่อนข้างเยอะ โดยปกติแล้ว จะมีการหยิบยืม DNA มาบ้างเล็ก ๆ รอบนี้เหมือน Design ขึ้นมาใหม่เลย โดยสีตัวเครื่องที่แก้วได้มารีวิวนั้นจะเป็นสี Black Rock นะครับ โดยจะออกเป็นสีเทาเข้ม แต่มีการใส่ลายเส้น ในแนวทแยงมาให้ ผิวสัมผัสจะค่อนข้างด้าน ๆ ป้องกันรอยนิ้วมือได้ดีครับ

Detail ในส่วนตัวสีฝาหลังอีกจุดที่แก้วชอบ คือ บริเวณฐานของ Module กล้อง จะมีการทำสีในรูปแบบ Glossy ซึ่งจะตัด กับ ลักษณะการทำสี โดยส่วนใหญ่ของตัวฝาหลัง ทำให้มีลูกเล่นมากขึ้น เวลาเราพลิกเครื่องไปมา เล่นแสงสวยทีเดียว

ส่วน Module กล้อง ที่มีกล้องสองตัว แต่ใช้การยกระดับชิ้นกระจกขึ้นมาเป็นชิ้นเดียว แต่ใส่ลูกเล่นวงแหวนสะท้อนแสง ที่มีลวดลายเป็น Pattern ล้อมรอบหน้าเลนส์กล้องแต่ละตัวลงไปแทน เวลาโดนแสงอาทิตย์ตอนใช้งานนอกบ้าน จะดูโดดเด่นมาก ๆ เลยครับ

ขอบตัวเครื่องมาในรูปแบบ Flat วัสดุเป็นพลาสติก มีความหนาเพียงแค่ 7.89mm ซึ่งทาง realme เคลมว่ามีความบางมากที่สุดใน Segment และสีขอบตัวเครื่องจะเป็นสีเดียวกับฝาหลังนะครับ เรื่อง Build Quality สบายหายห่วง มาพร้อมกับ การกันน้ำ กันฝุ่น IP54 น่าจะเป็นตัวแรกของ Segment นี้เลยครับ

ด้านขวามือของตัวเครื่องก็จะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Volume up - Volume down | ปุ่ม Power ที่เป็น Fingerprint Scanner ในตัว ซึ่งหลังจากที่แก้วลองแล้ว ทำงานได้ค่อนข้างเร็ว และแม่นยำมาก ๆ ครับ ถาดใส่ซิมจะอยู่บริเวณซ้ายบนของตัวเครื่อง ที่สามารถใส่ได้ 2 ซิม พร้อมกับ microSD Card ครับ

บริเวณด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมี Port USB-C | Port AUX | Microphone และ Stereo Speaker

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

หน้าจอของ realme C55 นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 6.72 นิ้ว ขนาด โดยที่ลักษณะจอ จะเป็นแบบกล้องเจาะรู ซึ่งจะให้พื้นที่หน้าจอที่เต็มตากว่า ขอบของหน้าจอโดยรอบ ส่วนด้านบน และด้านล่าง ค่อนข้างบางสวยใช้ได้เลย จะมีด้านล่างที่อาจจะหนาหน่อย ตามระดับราคานะครับ

Panel ของหน้าจอเป็นในรูปแบบของ LCD-IPS มี ตัวเกรดของหน้าจอนั้น ใช้ของดีเลย คุณภาพการแสดงผล คมชัดดีมากด้วย Resolution ระดับ FHD+ ในเรื่องของสีสันหน้าจอนั้น เมื่อเทียบกับราคาแล้ว แก้วถือว่าทำได้ดีมาก ๆ แน่นอนว่า Contrast สู้จอ AMOLED ไม่ได้อยู่แล้วนะครับ

เวลาเอาไปดู Content Streaming ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix HBOGO , Youtube หรือ Application อื่น ๆ ก็สามารถแสดงผลได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงสามารถปรับความละเอียดของ Video ได้สูงสุดอีกด้วยนะครับ Security Level เป็น L1 นะ

ตัว Refresh Rate หน้าจอ 90Hz ลื่น ๆ เมื่อแสดงผลร่วมกับ realme UI ค่อนข้างโอเคเลย จะใช้งานทั่วไป เล่น Social Media หรือการใช้ Application ที่ต้องมีการ Scroll เยอะ ๆ ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ความติดนิ้วในการ Touch ทำได้ดีกว่า realme C55 ของปีที่แล้วอยู่เล็กน้อย Animation การเลื่อนต่าง ๆ กระชับมากขึ้น

นอกจากนั้น ก็มาพร้อมกับ Feature Mini Capsule 2.0 ซึ่งจะมี Animation กางออกมาจากส่วนรูกล้องหน้า เวลาที่มีการแจ้งเตือนต่าง ๆ หรือ สถานะของ Smartphone ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น แสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ , แสดง Data usage ต่าง ๆ และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน เวอร์ชั่นนี้ก็จะเป็น การโชว์ การเล่นเพลง , สภาพอากาศ และกิจกรรมจาก Google Calendar

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

กล้องหลัก 108MP AI Camera | f/1.7 | Sensor ISOCELL HM6
กล้องวัดระยะ 2MP Depth Camera
กล้องหน้า 8MP AI Selfie

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 108MP

จากความสำเร็จในปีที่แล้วของ realme C55 ที่กล้องหลักใช้ Sensor OV64B ครั้งนี้ realme จัดหนักกว่าเดิม ด้วยการเอา Sensor 108MP จาก Samsung อย่าง ISOCELL HM6 ที่มีขนาดใหญ่กว่า และรูรับแสงที่กว้างกว่า เรื่องความคมชัดของภาพที่ได้ คือไว้ใจได้เลยครับ

ตัวสีสันของภาพที่ได้เวลาถ่ายภาพจาก Mode Auto ต้องบอกว่า สีจะไม่ได้สดมาก เหมือนตอน realme C55 ใน realme C67 ได้มีการปรับจูนมาให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีสีสันที่ตรงกับความเป็นจริงมากกว่าเดิม

Dynamic Range เวลาถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ ทำออกมาได้ดี ดึงรายละเอียดส่วนท้องฟ้ากลับมาได้ดี และ เพิ่มรายละเอียดในส่วนเงาขึ้นไปเล็กน้อย ทำให้ ภาพที่ได้ค่อนข้างใส มี Noise ที่ต่ำ

คุณภาพไฟล์ในระยะ 1x คือหายห่วง ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย Detail ดี White Balance แม่นในสภาพแสงที่เพียงพอ และ ทีเด็ดของ realme C67 ตัวนี้ ก็คือ เราสามารถ Lossless Zoom ได้หลากหลายระยะมากขึ้น

นอกจากนั้น ในการ In-sensor Zoom ระยะ 3x ขึ้นไป ก็ถือว่า ยังสามารถเอาไฟล์มาใช้งานได้โอเค สำหรับการโพสลง Social Media หรือเอาภาพไปใช้งานบนหน้าจอแสดงผลทั่ว ๆ ไป แต่ในระยะ 5x อาจจะเห็นการ Drop ลง ของคุณภาพไฟล์ ได้ง่ายนิดหนึ่งนะครับ

ด้วยความที่กล้องตัวนี้ มีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ค่อนข้างใกล้มาก ทำให้เราสามารถที่จะใช้ In-sensor zoom 2x เพื่อถ่ายภาพ Macro ถ่ายภาพดอกไม้ ถ่ายภาพเครื่องประดับ หรือ นาฬิกาได้คุณภาพดี แบบสบาย ๆ

Depth of field ที่ได้ หรือการละลายฉากหลังเนี่ย ดีงามมาก ๆ เลยละครับ Bokeh ขึ้นง่ายมาก

หรือใครที่ไม่อยากถ่ายแบบ Zoom แต่อยากถ่ายเต็ม Sensor 108MP แล้วเอามา Crop ใช้งานทีหลังก็ทำได้นะครับ ใช้เวลาในการประมวลผลภาพนิดหนึ่ง แต่จะได้เนื้อไฟล์ที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า การ Zoom

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

วันแรกที่แก้วได้เครื่อง realme C67 มาแล้ว ลองเปิด Mode ต่าง ๆ ขึ้นมาลองเล่น แต่พอเปิดไปที่ Mode Portrait ก็แอบตกใจเล็กน้อย เพราะว่า ปกติแล้วเนี่ย ระยะในการถ่ายภาพ Portrait ของ Smartphone ระดับ Entry Level มักจะมีแค่ระยะเดียว คือ 1x ขนาด Mid-range บางตัว ที่ราคาสูงกว่า realme C67 3 เท่า หลายตัวก็มีระยะเดียว

แต่ใน realme C67 เลือกจะใส่การถ่ายภาพ Portrait ในระยะ 3x มาให้ด้วย ซึ่งในแง่นี้ คือกินขาดทุกตัว ในระดับราคาไม่เกิน 10,000 ไปแบบขาดลอย แต่ว่า คุณภาพที่ได้จะเป็นยังไงกันนะ ?

สำหรับการถ่ายภาพ Portrait ในระยะ 3x นั้น แน่นอนว่าเนื้อไฟล์ Drop ลงจากระยะ 1x แน่นอนอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเอามาถ่ายลง Social Media ถือว่า ค่อนข้างโอเคนะครับ ไม่ได้แย่เลย

ความเบลอของฉากหลัง เราสามารถปรับได้จาก ค่า f/stop มุมซ้ายล่างของจอ โดยที่ระยะ 3x แก้วแนะนำให้ปรับไว้ที่ f/2.8 กำลังสวย และไม่เบลอมากจนภาพดูลอย การตัดขอบละลายฉากหลังถือว่า ทำได้ค่อนข้างดี กว่า Smartphone Entry Level หลาย ๆ ตัวที่แก้วได้จับมา

Beauty Mode ถ้าใครชอบแบบ หน้าหวาน ตาหวาน ปรับไปสัก 50% ได้เลย แต่ถ้าใครชอบความเป็นธรรมชาติ แก้วแนะนำให้เปิดแค่ 25% ก็พอ จะได้ผิวที่เนียน แต่ยังเห็นรูขุมขนได้อยู่บ้างครับ

LOW LIGHT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพกลางคืน

สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ realme C67 นั้น เราสามารถใช้งาน Night Mode ได้ทั้งหมด 3 ระยะ คือ 1x | 3x | 5x แต่แก้วแนะนำว่า ให้ใช้ที่ระยะไม่เกิน 2x จะได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด ทั้งเนื้อไฟล์ และไม่ต้องรอลากชัตเตอร์นาน ๆ

ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพใน Night Mode ก็ตามสไตล์ของ Smartphone ระดับ Entry Level คือ จะมีการ Process ไฟล์ที่ค่อนข้างหนัก เน้นให้ Noise ต่ำที่สุด และภาพดูคมขึ้นด้วยการ เติม Clarity และ Sharpness เข้าไป

พวก Filter สีสันก็มีมาให้เราเลือกใช้พอสมควร แต่จริง ๆ ถ้าจะพูดเรื่อง Filter สีเนี่ย ใน Street Mode ค่อนข้างจะเด่นกว่า

STREET MODE : โหมดการถ่ายภาพ Street

นี่เป็นครั้งแรกของ realme C Series เลย ที่ได้มีการใส่ Street Mode เข้ามาให้ โดยที่รองรับการถ่ายภาพ 3 ระยะ ก็คือ 24mm | 72mm | 120mm สามารถควบคุม Focus ได้อย่าง อิสระ ไม่จำเป็นต้องใช้ Auto Focus แต่เพียงอย่างเดียว

นอกจากนั้น จุดเด่นของ Mode นี้คือ จะมี Filter สี ที่มี Color Profile ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ ใช้คู่กับการถ่ายภาพ Street โดยเฉพาะ โดยมีทั้ง Filter แบบสี และ Filter แบบขาวดำ

ถ้าให้เลือก Street Filter ในกลุ่มภาพสีออกมาสักอันหนึ่ง ก็จะเป็น CINEMATIC นี่แหละที่ใช้บ่อย

ส่วนถ้าเป็น Filter ขาวดำ ก็คงจะเป็น TRANQUIL ครับ ที่ใช้บ่อยมากที่สุด

FRONT CAMERA : กล้องหน้า

สำหรับใครที่มีความต้องการในการจะ Selfie บ่อย ๆ หรือใช้งานกล้องหน้าอยู่เป็นประจำ ต้องบอกว่า อาจจะไม่ได้ตอบสนองเราได้เต็มที่ขนาดนั้นนะครับ เพราะถึงแม้จะให้ Features กับลูกเล่นมาพอสมควร

แต่คุณภาพของ Sensor ไม่ได้ดีมากนัก เราจะเจอ Noise หรือจุดรบกวนได้ค่อนข้างง่าย เมื่อเราใช้งานในที่แสงน้อย และ Dynamic Range ก็ไม่ได้ดีมาก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปครับ

RAW FILE PERFORMANCE

อีกหนึ่งจุด ที่เราไม่คิดว่าจะได้มาเห็นใน Smartphone ระดับ Entry Level ก็คือ การรองรับการถ่ายภาพด้วย RAW File ด้วย ซึ่งรูปแบบของ RAW File จะเป็น Sensor RAW นะครับ คุณภาพของเนื้อไฟล์ ถือว่า ทำได้น้อง ๆ RAW File ในสมาร์ทโฟนระดับกลาง

เพราะถึงแม้ Sensor ที่ให้มาจะค่อนข้างดี แต่ประสิทธิภาพในการประมวลผลนั้น อาจจะยังไม่สามารถ ดึง Dynamic Range กลับมาได้เยอะมากนัก อย่างไรก็ตาม ให้มาก็ดีกว่าไม่ให้

แก้วได้ลองเอา Process ดูแล้วในหลาย ๆ ภาพ ถือว่าความยืดหยุ่นดีใช้ได้เลย เป็นเรื่องที่ดี ที่คนมีงบประมาณไม่เยอะ สามารถจะได้ทดลอง ถ่ายภาพด้วย RAW File มาหัด Profile กัน

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ

ในเรื่องของการถ่ายวีดีโอ จุดนี้อาจจะเป็นจุดที่ realme C67 อาจจะยังทำไม่ได้ว้าวมากนัก เพราะว่า Resolution สูงสุดอยู่ที่ 1080p 30fps เท่านั้น ทั้งในกล้องหน้า และกล้องหลัง ตัว Bitrate ไม่ได้สูงมากนัก การกันสั่นแบบ EIS ถือว่านิ่งใช้ได้ แต่เวลาเปิดใช้ ภาพจะโดน Crop เข้ามาเยอะสักนิดหนึ่งครับ ส่วนเสียงไมโครโฟน เวลาถ่าย Video เนี่ย อันนี้ค่อนข้าง Surprise ชัดกว่า สมาร์ทโฟนระดับกลางบางรุ่นซะอีกครับ

PERFORMANCE : ประสิทธิภาพของตัวเครื่อง

realme C67 จะใช้ Chipset จากทาง Qualcomm Snapdragon เป็น Snapdragon 685 4G ซึ่ง Performance ในภาพรวม จะดีกว่าของ realme C55 แบบชัดเจนอยู่แล้ว เพราะตัวนั้นใช้ Helio G88 หลังจากที่แก้วใช้งานมา 2 สัปดาห์ กันใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตอบสนองเราได้ดี ไม่มีปัญหา

การใช้งาน Application ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Social Media หรือ Application ที่เราใช้ในการทำงาน อย่าง Google Suite ทุกตัว ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ Crash ไม่เด้งให้หงุดหงิดใจอะไรเลย แต่ถ้าเป็นการใช้งาน Application ที่มีการประมวลผลเยอะนิดหนึ่ง อาจจะต้องมี รอ ๆ กันบ้างนะครับ

สำหรับในเรื่องของการเล่นเกม ด้วยความที่เปลี่ยนมาเป็น Chipset Snapdragon 685 4G แก้วก็คาดหวังว่า มันน่าจะดีกว่า Helio G99 แน่นอน โดยเกมที่แก้วเล่นอยู่ และนำมาทดสอบได้แค่ Legend of neverland กับ Icarus M ผลปรากฏว่า กับเกม Icarus M ไม่มีปัญหาเลย เราสามารถที่จะเปิด Graphic Setting สูงสุด และ Frame Rate นิ่ง ๆ ได้ที่ 60fps เล่นต่อเนื่องเป็นเวลาสัก ชั่วโมง ใช้ Battery ไป 9% -10%

แต่ว่ากับ Legend of neverland แก้วคิดว่า น่าจะเพราะ ยังไม่ได้มีการ Optimize มาให้เหมาะสม ทำให้ยังไม่สามารถเปิด 60fps ได้ แต่สามารถจะเล่นได้ค่อนข้างลื่นที่กราฟิก Setting แบบ Medium

OVERVIEW & OPINION

สำหรับแก้วแล้ว realme C67 เป็นการกลับมาของ สมาร์ทโฟนที่ถูกออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่าในทุก ๆ ด้าน ทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งในครั้งนี้ก็ได้นำ Snapdragon 685 4G เข้ามาประจำการ พร้อมกับ RAM 8GB + 8GB LPDD4X ที่การันตีได้ว่า การใช้งานทั่วไป จะใช้ได้อย่างลื่นไหลแน่นอน

อีกหนึ่งจุดที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมา ก็คือ การใช้งานในด้าน Entertainment ถึงแม้เราจะได้ Panel หน้าจอ LCD-IPS เหมือนเดิม แต่ก็มีการปรับปรุงมาให้ Response หน้าจอเร็วขึ้น สีสันสวยขึ้น ไปจนถึง ความสว่างของหน้าจอที่สว่างใกล้เคียง Mid-range แล้ว อยู่ที่ 950nits ทำให้การจะดูหนัง เล่นเกม ทำได้ดีหมด ในทุกสภาวะแสง ที่สำคัญ ได้ลำโพงคู่แล้วด้วยนะครับ

ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ก็ต้องบอกว่า มีทั้งจุดที่ว้าวมาก และจุดที่แอบเสียดาย เอาเรื่องที่เสียดายก่อน ก็คงจะเป็นการตัดกล้อง Ultra Wide Angle ออกไป ที่หลาย ๆ คนอาจจะพอเห็นกันมาบ้างจากแบรนด์อื่น แต่ต้องบอกว่า Entry Level หลาย ๆ ตัวในปีนี้ กลับมาให้ Ultra Wide Angle กันเหมือนเดิมแล้ว แต่จุดที่ว้าวก็คือ ประสบการณ์การถ่ายภาพ ทั้งคุณภาพ Sensor ไปจนถึง Features ในการถ่ายภาพนั้น จัดเต็มมากจริง ๆ

เราสามารถ In-Sensor Zoom แบบ Lossless ได้ไกลขึ้นเป็น 3x เรามี Mode Portrait ที่ใช้งานได้หลายระยะมากขึ้น นอกจากนั้นยังมี Street Mode ที่ถูกยกมาจาก relame No. Series ใส่เข้ามาให้อีก ปิดท้ายด้วย การใส่ RAW File เข้ามาให้ใช้ในสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ก็เป็นสิ่งที่เราหาได้ยากเช่นกันครับ