top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

รีวิว vivo V29 5G | อัพกล้อง ! ให้กลมกล่อมมากขึ้น ถ่าย Portrait โหดเหมือนเดิม

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว และ Smartphone จากทางแบรนด์ vivo กันอีกครั้งนะครับ โดยในช่วงกลางปีแบบนี้ ก็เป็นช่วงเวลาของการออกรุ่นอัพเกรดให้ vivo V Series นั่นก็คือ vivo V29 5G เครื่องนี้นั่นเองครับ เพิ่ม Aura Light Portrait 2.0 เข้ามา ปรับ Chipset ใหม่ เปลี่ยน Sensor กล้องใหม่ จะน่าใช้ขึ้นแค่ไหน ? ไปชมรีวิวกันครับ

SPECIFICATION
  • Chipset : Qualcomm Snapdragon 778G

  • RAM 12GB + Extended Ram 3.0 8GB | Storage 256GB | 512GB

  • Display : 6.78-inch AMOLED | 1B colors | 120Hz | HDR10+

  • Operation system : Funtouch OS 13 | Android 13

  • Good quality mono speaker

  • Bluetooth 5.2 | USB Type-C 2.0 | Wifi6

  • Battery 4,600mAh | 80W FlashCharge

WHAT'S IN THE BOX : อุปกรณ์ภายในกล่อง
  • - เครื่อง vivo V29 5G

  • - 80W Adapter Charge | USB-C Cable

  • - Protection Case Transparent

  • - Protection Film

  • - Sim Card Ejector

  • - Manual Guide

DESIGN : การออกแบบ

งานออกแบบของ vivo V29 5G นั้น เมื่อเราดูในภาพรวมแล้ว จะไม่ได้แตกต่างไปจาก vivo V27 5G เมื่อช่วงต้นปีอะไรมากมายนัก ทั้งในส่วนของ Dimension ตัวเครื่อง และ Layout ในการจัดวางสิ่งต่าง ๆ โดยรอบตัวเครื่อง

จะมีแค่ส่วนของ ไฟ Aura Light Portrait 2.0 ที่ได้มีการขยับลงมาด้านล่าง Module กล้องแทน เพราะว่าจะต้องใส่ ไฟแฟลช แบบปกติ กลับเข้ามาให้ด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะ ไฟแต่ละรูปแบบจะมีจุดประสงค์ในการใช้งาน และ ผลลัพท์ ที่แตกต่างกันอยู่แล้ว

สีตัวเครื่องที่แก้วได้มารีวิวนั้น จะมีอยู่ทั้งหมด 2 สีด้วยกันนะครับ ก็คือ สีม่วง Starry Purple และ สีแดงมารูน หรือ Magic Maroon ซึ่งวัสดุของตัวฝาหลัง ของทั้ง 2 สีนั้น จะใช้เป็นกระจกทั้งคู่เลยนะครับ แต่เทคโนโลยีในการผลิต และ การทำสีนั้นจะแตกต่างกัน และอีกสีคลาสสิคที่มีให้เลือกก็คือ Noble Black นะครับ

สำหรับรายละเอียดของตัว สีม่วง Starry Purple นั้น จะใช้เทคโนโลยีการผลิต 3D Starry ที่จะมีการวาง Layer ของชั้นสี ที่ซับซ้อน ทำให้เวลาที่เราพลิกตัวเครื่องไปมาเล่นกับแสง เราจะเห็นมิติของตัวชั้นสี และลวดลายทางช้างเผือก บนฝาหลังได้ชัดเจนสวยงาม ซึ่งทาง vivo บอกว่า สีนี้ทำยากมาก ๆ นะครับ

อีกหนึ่งสีก็คือ สีแดง Magic Maroon นั่นเองครับ สีนี้เป็นสีที่แก้วชอบเป็นการส่วนตัวมากทีเดียว โดยจะใช้ กระจก AG Glass ที่ให้สัมผัสเรียบเนียน ป้องกันรอยนิ้วมือได้ดี และยังได้เสริมลูกเล่น Color Changing Glass เข้าไปด้วย ทำให้เมื่อตัวเครื่องสัมผัสกับอุณหภูมิ หรือ แสง UV ที่ต่างออกไป ตัวเครื่องจะมีสีสันที่เข้มมากขึ้น เท่มากครับจุดนี้

Frame ของตัวเครื่อง vivo V29 5G เครื่องนี้ ยังใช้ Frame พลาสติกอยู่นะครับ มีความบางเพียงแค่ 7.46mm เท่านั้น และมีน้ำหนัก 186g แต่ในเรื่องของ Build Quality ก็คือสบายหายห่วงได้เลย แข็งแรงมาก ๆ แถมยังได้ IP Rating อยู่ที่ IP54 ด้วยนะครับ กันฝุ่น กันละอองน้ำได้สบาย ๆ

บริเวณด้านบนของตัวเครื่องก็จะมี Chokers ที่เขียนว่า Professional Portrait เพื่อเป็นการบ่งบอกว่า vivo V29 5G เครื่องนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพ Portrait ให้ยอดเยี่ยมในทุกสภาวะแสง โดยเฉพาะเลยครับ

บริเวณด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นที่อยู่ของ Port USB-C | ช่องใส่ Sim | ช่องไมโครโฟน | ลำโพง Mono Speaker ซึ่งคุณภาพค่อนข้างดี โดยแนวเสียงจะเป็น ใส ๆ มี Bass แค่อุ่น ๆ เท่านั้น Sound Stage กว้างในระดับกลาง ๆ

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

vivo V29 5G มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.78 นิ้ว ซึ่งเท่ากับขนาดจอของ Flagship อย่าง X Series และ เป็นหน้าจอในรูปแบบ 3D Curved Display หรือ หน้าจอโค้งนั่นเองครับ ตัว Panel หน้าจอก็จะเป็น 1.5K AMOLED | Refresh Rate 120Hz และมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ FHD+ ครับ และ การจัดวางกล้องหน้า เป็นแบบ Punch Hole Display ตรงกลางแล้ว ขอบจอบางมาก

ในเรื่องของคุณภาพการแสดงผล เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟน ในระดับราคาเดียวกัน ถือว่าโดดเด่นมาก ๆ มีสีสันที่สวยงาม ให้รายละเอียดที่คมชัด โดยจะมี Pixel Density อยู่ที่ 452 PPI ซึ่งสูงขึ้นกว่าใน vivo V27 5G อยู่พอสมควรเลย ( 388 PPI )

การ Touch หน้าจอใช้งานทั่วไปนั้น ทำได้ดี และลื่นไหลมาก ๆ Animation ต่าง ๆ ของ FuntouchOS 13 ก็ทำได้ดี เวลาเรา Scroll หน้า Feed Social Media ต่าง ๆ ทำได้อย่างลื่นไหลที่ 120Hz เลยครับ

เวลาที่เราเอาไปใช้งานในการรับชม Entertainment ต่าง ๆ โดยเฉพาะ Streaming Content ที่เป็นในรูปแบบ HDR ก็สามารถใช้งานได้ทั้งบน Youtube และ Netflix แบบสบาย ๆ เลยครับ ได้ความละเอียดสูงสุดบนทั้ง 2 Platform เลยครับ

นอกจากนั้น จะมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการปรับแต่งภาพบนหน้าจอให้มีรายละเอียดที่ดีขึ้น สวยงามมากขึ้นอีกด้วยนะครับ ซึ่งเรียกว่า Visual Enhancement ซึ่งจะทำงานบน Applicaiton Streaming Content ส่วนใหญ่ได้ครบถ้วน ตัวอย่าง เช่น Prime Video , Youtube , Netflix เป็นต้นครับ

สำหรับคนที่มีความจำเป็นจะต้องใช้งานหน้าจอ ในลักษณะของการทำงาน เช่น การ Prove สีงาน Artwork หรือ เช็ค Grading สีงานวีดีโอต่าง ๆ ก็สามารถจะทำได้อย่างสบายใจ ด้วยขอบเขตสีระดับ DCI-P3 100% และยังสามารถ ปรับแต่ง Color Profile ของหน้าจอได้อย่างอิสระด้วยนะครับ

รูปแบบการปลดล็อคหน้าจอ จะเป็น Under display optical fingerprint หรือการสแกนนิ้วใต้จอ แบบ Optical นั่นเอง ซึ่งมี Response ที่รวดเร็ว สแกนติดได้ง่าย ตำแหน่งในการจัดวางตัว Sensor ก็สูงกำลังดี ไม่ต่ำจนเกินไป

เวลาเราใช้งานนอกบ้าน ที่ต้องสู้แสงแดด ตอนเที่ยง ตอนบ่าย หน้าจอของ vivo V29 5G ตัวนี้ ก็เอาอยู่สบาย ๆ ครับ เพราะมี Peak brightness อยู่ที่ 1,300 nits และมี PWM Dimming อยู่ที่ 2160 Hz ช่วยให้สบายตา เวลาใช้งานหน้าจอในสภาวะแสงต่าง ๆ ครับ

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

มาต่อกันที่เรื่องของ กล้องถ่ายภาพ ใน vivo V29 5G กันครับ บอกเลยว่า ถ้าเราดูที่ความละเอียด Sensor จะรู้สึกธรรมดามาก แต่จริง ๆ แล้วยกเครื่อง Sensor มาเยอะพอสมควร โดยจะมี ชุดกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว และกล้องหน้าหนึ่งตัว ที่ความละเอียดสูง ๆ ทั้งคู่เลย ดังนี้ครับ

  • - Main Camera 50MP | f/1.88 | ISOCELL GN5 | PDAF, OIS

  • - Ultra Wide Angle 8MP | f/2.2 | 120 ํ | Fix-Focus

  • - Monochrome Camera 2MP | f/2.4

  • - Front Camera 50MP | ISOCELL JN1 | f/2.0 AF | Focal Length 22mm

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 50MP | ISOCELL GN5

เรามาเริ่มกันที่ภาพถ่ายจากกล้องหลักกันก่อนเลยนะครับ ตอนที่แก้วเห็น Spec ว่าจะมีการเปลี่ยน Sensor ในกล้องหลัก จาก IMX766V มาเป็น ISOCELL GN5 นั้น ก็แอบคิดว่า น่าจะมีโทนของภาพ และลักษณะในการ Process ตัวไฟล์ภาพที่เปลี่ยนไปพอสมควรแน่ ๆ แต่พอได้ลองถ่ายไปสัก 20-30 ภาพ ใน Color Profile แบบปกติ และแบบ Natural Color

สรุปคือ ลักษณะของภาพที่ได้ ใกล้เคียงกับ vivo V27 5G มาก ๆ ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร อย่างมีนัยยะ สำคัญ ยังคงมีการเติม Sharpness เข้ามาในภาพให้ดูคมขึ้น ในปริมาณที่ไม่เยอะมาก และ White Balance กับ Auto Exposure ยังทำงานได้ดีเหมือนเดิม

คือ เวลาที่เรายกกล้องขึ้นมาเล็งจะถ่าย ภาพที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ จะดูเหมือนกับว่าภาพที่เราถ่ายมันจะ Over exposure นิด ๆ แต่จริง ๆ แล้วพอเรากดถ่ายเสร็จ ตัว Software Auto HDR เขาจะช่วย เฉลี่ยแสง และรายละเอียดในแต่ละย่านความสว่างออกมาให้เราเอง และทำได้ดีด้วยนะครับ

Dynamic Range ของภาพแต่ละภาพ อันนี้จะเป็นจุดที่มีความแตกต่างเล็กน้อย คือ ถ้าเราถ่ายภาพใน vivo V27 5G แล้วปิด Auto HDR รายละเอียดในส่วน Shadow กับ Highlight จะค่อนข้างหายไปพอสมควร แต่ใน vivo V29 5G ที่มีการเปลี่ยนมาใช้ Sensor ISOCELL GN5 ตัว Dynamic Range ที่ได้ แม้เราจะปิด Auto HDR ก็ตาม ยังอยู่ในระดับที่กำลังดี และให้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย

ในส่วนของ Depth of field ของกล้องตัวนี้เวลาเราถ่ายภาพละลายฉากหลัง นี่คือจุดที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด เมื่อเทียบกับ vivo V27 5G เพราะว่า ระยะโฟกัสใกล้สุดของกล้องตัวนี้ เข้าใกล้ได้มากขึ้น และมีเม็ด Bokeh ที่ใหญ่ ละลายได้สวยกว่าเดิม

นอกจากนั้น สำหรับการถ่ายภาพ Macro เรายังสามารถใช้การ Crop zoom ได้มากขึ้น จากในระยะ 2x เป็น 3x แบบ lossless ได้อีกด้วย เห็นรายละเอียดของ Texture สิ่งที่เราถ่ายได้อย่างชัดเจนมาก ๆ เลยครับ

และสิ่งสุดท้ายที่ vivo V29 5G ทำได้ดีขึ้นกว่าใน vivo V27 5G คือการถ่ายภาพใน Mode Hi-Resolution ครับ ซึ่งพอเปลี่ยนมาใช้ Sensor ISOCELL GN5 แล้ว เวลาเราถ่ายภาพใน Mode นี้ จะให้รายละเอียดในจุดเล็ก ๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เวลา Crop zoom เราจะเห็นรายละเอียดในส่วนพื้นผิว ได้ดีมากขึ้น และ Software HDR ก็ยังทำงานใน Mode นี้ด้วยนะครับ

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

สำหรับการถ่ายภาพ Portrait ใน vivo V29 5G เครื่องนี้ จุดนี้ยังคงเป็น Highlight ของรุ่นนี้เหมือนเคย เราสามารถถ่ายภาพ Portrait ได้ใน 2 ระยะด้วยกันนะครับ ก็คือ 1x และ 2x ซึ่งเวลาที่ภาพออกมาแล้ว เราก็ต้องขยี้ตาดูเลยว่า นี่สรุป vivo V29 5G ไม่ได้มีเลนส์ Telephoto สำหรับถ่ายคนโดยเฉพาะจริง ๆ หรอ ?

เพราะคุณภาพไฟล์ที่ได้ เวลาเราถ่ายภาพ Portrait ในระยะ 2x ออกมานั้น มันแทบจะไม่ต่างไปจาก ระยะ 1x เลยครับ คือ ไม่ใช่ว่าภาพไม่แตกเฉพาะเวลาเราดูบนหน้าจอ สมาร์ทโฟนนะครับ แต่แก้วมาเปิดบนหน้าจอที่แก้วใช้ทำงาน 27 นิ้ว Resolution 4K มันก็ยังให้รายละเอียดได้ดีมาก ๆ อยู่

ซึ่งตอนที่แก้วใช้ vivo V29 5G เครื่องนี้ถ่ายภาพ Portrait เนี่ย แทบจะไม่เปิด 1x ขึ้นมาถ่ายเลย ใช้ 2x เกือบจะตลอดเวลา เพราะว่าด้วย Focal Length ที่มันเปลี่ยนไป มันช่วยให้เราสามารถจะเปิด Software Bokeh ละลายฉากหลังได้เยอะมากขึ้น โดยที่ไม่ทำให้ภาพดูลอย

เวลาที่เราถ่ายภาพย้อนแสงใน Mode Portrait ตัว Auto HDR ก็ยังทำงานอยู่ และทำได้ดีมาก ๆ ด้วย เปิดรายละเอียดในส่วนเงาของใบหน้าขึ้นมาได้กำลังสวย ไม่ดูมากจนเกินไป

การละลายฉากหลังนั้น ตัว Software ก็มีการไล่ระดับได้อย่างสวยงาม จะค่อย ๆ เบลอยิ่งขึ้น ตั้งแต่ส่วนถัดจากตัวแบบออกไป ทำให้ถ้าเราจัดวางฉากหลังดี ๆ และเลือกค่า f/stop ให้พอดีกับ Scene ที่ถ่าย จะทำให้ภาพออกมาดูสมจริงมากขึ้น บางภาพที่ถ่ายได้เนี่ย สู้ vivo X Series ได้สบาย ๆ เลยนะครับ

ตัว Beauty Software หลังจากที่แก้วได้ลองมาหลายรูปแบบ แก้วรู้สึกว่า ใน Mode Natural ที่เราปล่อยให้ตัว Software เขาปรับให้เราเองทั้งหมด ทำออกมาได้ดีกว่า ใน vivo V27 5G และ สวยกว่า เราไปนั่งปรับเองทีละส่วน เพราะจะมี AI ที่ช่วยวิเคราะห์ใบหน้า ของผู้ถูกถ่าย ให้ออกมา หน้าเรียว ผิวสวย แต่ไม่ดูปลอมเลย ยังเห็น Texture ของผิวได้ชัดเจน

ULTRA WIDE ANGLE : กล้องมุมกว้าง 8MP | FOV 120˚

มาต่อกันที่กล้อง Ultra Wide Angle หรือกล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8MP แบบ Fix Focus ตัวนี้กันบ้างครับ ในแง่ของคุณภาพไฟล์นั้น ถ้าเกิดจะต้องให้ Rating จริง ๆ ก็คงให้อยู่ที่ 7/10 คือ มันไม่ได้แย่จนใช้งานไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก ใช้งานแบบปกติ ถือว่าโอเคอยู่

สิ่งที่กล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ได้รับการปรับปรุงมาเพิ่มเติมคือ สีสัน ของภาพที่ได้ จะตรงกับกล้องหลัก มากกว่าใน vivo V27 5G ค่อนข้างชัดเจน รวมไปถึง การเลือก Color Profile ต่าง ๆ ก็ยังใช้งานได้เหมือนกับ กล้องหลักอีกด้วย

เวลาเราถ่ายภาพในสภาพแสงที่ดี ในวันที่แดดสวย ๆ ฟ้าใส ๆ ตัวภาพที่ได้ก็คือ เราคาดหวังได้เลย ให้รายละเอียดที่ดี สีสันสวย Dynamic Range จากตัว Auto HDR ก็ทำได้ค่อนข้างโอเค แต่ถ้าวันนั้น มีเมฆเยอะ หรือแสง Drop ลงมาหน่อย เราจะพบว่า เจอ Noise ตามส่วนเงา ส่วนมืด ของภาพได้ง่ายเหมือนกันครับ

ความกว้างของกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ก็ตามมาตราฐานครับ ไม่ได้กว้างมาก อยู่ที่ 120 ํ 80% ในส่วนกลางภาพจะมีความคมดี ส่วนประมาณ 2% ตามขอบภาพทั้ง 4 ด้านจะเจออาการ Soft อยู่บ้างครับ แต่ Distortion และ Chromatic Aberration จัดการมาได้ค่อนข้างดี ไม่เจออาการ ขอบเขียว ขอบม่วง

เรายังสามารถเอากล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ มาใช้ในการถ่ายภาพ Portrait ก็ได้ ช่วยให้ตัวแบบดูสูงขึ้นได้ด้วยนะครับ

FOOD MODE : การถ่ายภาพอาหาร

นี่คืออีกหนึ่ง ฟีเจอร์ที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามาให้ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพอาหารโดยเฉพาะ แล้วทำได้ดีด้วยนะครับ สามารถนำไปใช้งานได้จริง

โดยเมื่อเราเปิด Mode นี้ขึ้นมา ตัวกล้องจะมีการ Boost สีสันของภาพให้สดขึ้น จะมีการเปิด Software Bokeh ที่ออกแบบมาเพื่อถ่ายอาหารขึ้นมา และ เปิดไฟ Aura Light 2.0 ขึ้นมาด้วยนะครับ

ผลลัพท์ที่ได้ ก็คือ ภาพอาหารที่เราถ่าย จะมีสีสันที่ดูฉ่ำมากขึ้น น่าทานมากขึ้น และ ถ้าเป็นอาหารที่มีน้ำมัน หรือมีส่วนที่สะท้อนแสงได้ ตัวไฟ Aura Light ก็จะช่วยดึงรายละเอียดในส่วนนั้นขึ้นมา ให้เด่นชัดมากขึ้นด้วย

อีกหนึ่งประโยชน์ก็คือ เวลาที่เราไปตามร้านอาหาร หรือ คาเฟ่ เขามักจะเลือกใช้ไฟแต่งร้านที่เป็นสีส้ม หรือสีเหลือง ทำให้ เวลาเราถ่ายภาพออกมา มักจะได้สีสันที่ไม่ตรง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ สีเพี้ยนนั่นแหละ แต่พอเราเปิดไฟ Aura Light ขึ้นมาส่องอาหาร ด้วยแสงสีขาว ทำให้ ตัว White Balance ของกล้อง สามารถทำงานได้แม่นยำมากขึ้น ตัวอาหารได้สีสันที่ตรง โดยที่ยังเก็บ Ambience light สวย ๆ โดยรอบเข้ามาได้พร้อม ๆ กันครับ

FRONT CAMERA : กล้องหน้าความละเอียด 50MP | JN1

สำหรับกล้องหน้าใน vivo V29 5G ในรุ่นที่แล้ว ว่าจัดเต็ม จัดหนักมาให้แล้ว รุ่นนี้ ทั้งเปลี่ยน Sensor ทั้งปรับค่ารูรับแสงให้กว้างขึ้น ยังมี องศาในการรับภาพที่กว้างขึ้นอีก นอกจากจะเหนือกว่า คู่แข่งในระดับราคาเดียวกับแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่นแล้ว ยังดีกว่า สมาร์ทโฟนระดับเรือธงในปีนี้ หลาย ๆ ตัวด้วยนะครับ

องศาในการรับภาพกว้างขึ้นเป็น 22mm หรือ 0.8x ทำให้การ Selfie ในระยะแบบยื่นสุดแขนนั้น Frame ภาพที่ได้จะกว้างไปถึงระดับที่ สามารถเห็นประมาณ เกินกว่าครึ่งตัวของผู้ถ่ายได้สบาย ๆ ถ้าเล็งดี ๆ นี่เห็นได้เต็มตัวเลย

นอกจากระยะกว้างสุดแล้ว เรายังสามารถ Zoom ในกล้องหน้าได้ด้วย โดยจะมีระยะ Zoom ให้ทั้งหมด 2 ระยะ คือ 1x | 2x ใครที่รู้สึกว่ามุมกว้างสุด มันกว้างเกินไป จัด Frame ในภาพลำบาก ก็สามารถปรับ Zoom ในกล้องหน้าได้ครับ

การละลายฉากหลัง อาจจะไม่ได้มีการไล่ระดับที่ดูแนบเนียนเท่ากับ กล้องหลัง แต่ก็ถือว่า เหนือกว่า กล้องหน้ากว่า Software ของ สมาร์ทโฟนระดับกลางในช่วงราคาเดียวกันพอสมควร ตัว Beauty Mode แก้วก็แนะนำเหมือนเดิมคือ ใช้แบบ Natural นี่แหละ ออกมาสวยกำลังดี

NIGHT TIME PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพกลางคืน

พอตกกลางคืน ก็ได้เวลาที่พลังของ Aura Light Portrait 2.0 ตัวนี้จะแสดงพลังแล้วครับ กำลังไฟของ Aura Light ใน vivo V29 5G ตัวนี้นั้น ยังให้แสงที่นุ่มนวล แต่มีกำลัง แรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ เราสามารถจะปรับอุณหภูมิสีได้

ในหลาย ๆ ครั้งที่เรานั้น ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นอกจากจะมีแสงสว่างไม่เพียงพอแล้ว เรายังเจอ Ambience Light สีแปลก ๆ จากพวกไฟประดับด้วย ไม่ว่าจะเป็น สีฟ้า สีม่วง สีเขียว ตัวไฟ Aura Light สามารถจะช่วย แก้ในเรื่องของสีสัน ให้กลับมาตรงกับความเป็นจริง หรือ ได้สีสันตามที่เราต้องการ

ใน vivo V27 5G นั้น ระยะเลนส์ที่เราสามารถใช้งาน Aura Light ได้ดีที่สุด ก็จะเป็นการถ่ายด้วยระยะ 1x แต่ว่าใน vivo V29 5G นั้น ในระยะ 2x ก็สามารถจะได้รับผลจากความสว่างของไฟ Aura Light ได้ชัดเจนมากขึ้นด้วยนะครับ

นอกจากนั้น ยังมี Portrait Style เฉพาะที่ถูกใส่เข้ามาให้ใน vivo V29 5G ตัวนี้เท่านั้น เพราะต้องทำงานร่วมกับ vivo V29 5G และ 2 Style ที่แก้วชอบมากที่สุด นั่นก็คือ " ภาพคนในที่แสงน้อย "

และ " สีฟ้าน้ำทะเล " ถ้าถามว่าในรุ่นหน้าอยากเห็นอะไรจาก Aura Light เพิ่มเติม ก็คงอยากให้ ปรับ Dimming ความสว่างได้แบบละเอียด ๆ จะเท่มากเลยครับ

ทีนี้เรามาดูภาพจาก Night Mode ตามปกติกันบ้างนะครับ เราสามารถใช้งาน Night Mode ได้ใน 3 กล้องด้วยกัน ก็คือ กล้องหลัก | กล้อง Ultra Wide Angle และ กล้องหน้า

Night Mode ในกล้องหลักนั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก ได้รายละเอียดที่ดี มีความสว่างที่ไม่ดู Over มากจนเกินไป และมีสีสันที่ถูก Boost ขึ้นมากำลังสวยงาม

อีกหนึ่งสิ่งที่แก้วรู้สึกว่า Night Mode ในกล้องหลักนั้น เก่งขึ้น เท่ขึ้น ก็คือ เราสามารถเอา Mode Portrait มาใช้ในการถ่ายภาพทั่วไปเวลากลางคืน แล้ว Night Mode ยังทำงานควบคู่กันไปได้ บางทีเราอยากได้ภาพสิ่งของละลายฉากหลัง ให้ได้ Bokeh ไฟสวย ๆ vivo V29 5G ตัวนี้ก็ทำให้เราได้ครับ

Night Mode ในกล้องหลัก เราสามารถจะ Crop zoom 2x ได้ด้วย แต่ต้องบอกว่า ในระยะ Crop 2x จะมีการเติม Clarity เข้ามาให้ภาพดูคมขึ้นมาก ซึ่งเวลาดูในหน้าจอเล็ก ๆ ถือว่าโอเค แต่ถ้าดูในหน้าจอใหญ่ บางครั้งจะรู้สึกว่า ภาพแข็งเกินไปนิดหนึ่งครับ

ส่วน Night Mode ในกล้อง Ultra Wide Angle แก้วถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ได้ ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่จนรับไม่ได้ แต่ถ้าอยากใช้จริง ๆ ให้มองหาแหล่งกำเนิดแสงในภาพไว้บ้างก็จะดีครับ

นอกจากนั้นยังมีการเพิ่ม Mode ในการถ่ายดาว อย่าง Astro Mode ที่เคยอยู่ใน vivo X Series เข้ามาให้ และได้เพิ่ม Mode Super Moon เข้ามาให้ด้วย ซึ่งต้องบอกว่า ถ่ายได้ค่อนข้างง่ายเลยครับ

RAW FILE PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ RAW FILE

สำหรับ vivo V29 5G ตัวนี้ การถ่ายภาพด้วย RAW File จะสามารถใช้งานได้ที่ กล้องหลัก และกล้อง Ultra Wide Angle ซึ่ง ในความเห็นส่วนตัวของแก้วแล้ว ถ้าใครอยากจะใช้งาน RAW File ในรุ่นนี้จริง ๆ ให้โฟกัสไปที่กล้องหลักจะดีกว่า และ RAW File ในรุ่นนี้ เลือก Color Profile ได้ด้วยนะครับ ไม่ธรรมดา ๆ

เพราะคุณภาพของ RAW File ในกล้องหลัก ทำออกมาได้ดีมากเลย ทั้งเรื่องความยืดหยุ่น และการจัดการ Noise เบื้องต้น ถึงแม้ว่าจะเป็น Sensor RAW ก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ถ่ายมีประสบการณ์ในการ Process File RAW มาก่อน จะใช้งานได้สะดวกมากขึ้นครับ

วันที่ท้องฟ้าเมฆแน่น ๆ ไม่สดใส นี่ RAW File ใน vivo V29 5G ตัวนี้โกงความตายได้เลย จากที่ไม่คิดว่าจะได้ภาพดี ๆ ก็รอดตายไปได้แบบสบาย ๆ ความยืดหยุ่นของไฟล์โดยเฉพาะในส่วน Highlight นี่ ไว้ใจได้จริง ๆ

ส่วน RAW File ในกล้อง Ultra Wide Angle นั้น ความยืดหยุ่นไม่ได้มากเท่านัก ส่วน Highlight พอจะถึงกลับมาได้เยอะ แต่ส่วน Shadow เวลาพยายามเอารายละเอียดกลับมา Noise ตามมาเยอะพอสมควร ใช้การถ่ายใน Mode ปกติจะดีกว่า

VIDEOGRAPHY การถ่ายวิดีโอ

vivo V29 5G มาพร้อมกับ Feature ในการถ่าย Video ที่ค่อนข้างครบถ้วนดีมาก ทั้งในแง่ของ ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30fps ทั้งใน " กล้องหลัง และ กล้องหน้าเลย " โดยในกล้องหลัง สามารถเปิดกันสั่น แบบ Normal ควบคู่กันไปได้ และนิ่งมาก ถือถ่ายด้วยมือเดียวได้สบาย ๆ เลย แต่ในกล้องหน้า 4k 30fps นั้น จะไม่มีกันสั่นให้นะครับ ทำให้เวลาเราเดินถือถ่าย จะมีความสั่นไหวเยอะ แนะนำให้ใช้ฟีเจอร์ Steady Face เข้ามาช่วย จะใช้งานได้สะดวกกว่าครับ

ระบบโฟกัสที่เป็น PDAF และ Normal Autofocus นั้นจะทำงานได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps และที่โหดขึ้นกว่าเดิมก็คือ ถ้าเราจะเปิดใช้งาน ฟีเจอร์ Object Tracking ในรุ่นที่แล้ว ความละเอียดจะลดไปเหลือ 1080p 30fps แต่ในรุ่นนี้ ทำงานได้บน 4K 30fps เลยครับ อันนี้ดีมาก ๆ

PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ

vivo V29 5G ใช้ Chipset จากทาง Qualcomm เป็น Snapdragon 778G หลังจากที่แก้วได้ใช้งาน vivo V29 5G เครื่องนี้เป็นเครื่องหลักมาตลอด 2 สัปดาห์ เต็ม ๆ การใช้งานทั่วไปแบบ Daily use ตอบสนองแก้วได้เป็นอย่างดี การใช้งาน Application ในการทำงาน หรือการประชุมต่าง ๆ พวก Google Meet , Microsoft Team ก็รวดเร็ว และเปิดกล้องนาน ๆ ไม่ร้อนด้วย

การใช้งานด้าน Entertainment ต่าง ๆ ก็ทำได้ดีครับ ไม่ว่าจะเป็นดู YouTube , Netflix , Prime Video ดูภาพสวยคมชัด ที่ความละเอียดสูงสุด และรองรับ HDR10+ ที่สำคัญด้วยความละเอียดในการปรับความสว่างหน้าจอที่ 16,000 ระดับ ทำให้เวลานอนดู Series ก่อนนอน ตอนปิดไฟห้องสนิท ไม่ปวดตาด้วย

สำหรับในเรื่องของการเล่นเกมนั้น vivo V29 5G ในเรื่องของ Graphic Setting ถ้าเป็น Game คุณภาพสูง ๆ ภาพสวย ๆ จะปรับได้ที่ Medium จนถึง High เพื่อรักษา Frame Rate ที่ 60fps เอาไว้ ให้ได้นิ่ง ๆ

ยกตัวอย่างเช่น พวกเกม Maple Story Revolution หรือ Tower of God สามารถจะเปิด Ultra ได้เลยเพราะว่าตัวเกมไม่ได้กินทรัพยากรเยอะ แต่กราฟิกไม่ได้สูงมาก

แต่ถ้าเป็นเกมที่กราฟิกโหด ๆ หน่อย เช่น Summoner War Chronicle หรือ Honkai Star Rail ใช้ Setting ที่ Medium จะดีกว่า กับการเล่นในระยะยาว เพราะนอกจากจะ ได้ FPS ที่ลื่นไหลแล้ว ตัวเครื่องจะไม่ร้อนมากด้วย

ในส่วนของ Battery Life เป็นอะไรที่แก้วค่อนข้าง Surprise มาก เพราะในวันที่เอาออกไปถ่ายภาพ ตั้งแต่ช่วงบ่าย 2 โมง จนถึง 3 ทุ่ม จนกลับมาถึงบ้านพบว่า Battery ยังเหลืออีก 40% และ ระหว่างวันก็มีเปิดนั่งดู Live Youtube ประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ แบตเตอรี่ลดไปแค่ 2% เท่านั้นเองครับ สำหรับ Screen on time ในภาพรวม จากการใช้งานทั่ว ๆ ไป ทั้ง กล้อง เกม ดูหนัง โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ 7 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 8 ชั่วโมง

และ ใช้เวลาในการชาร์จแค่ แป๊บเดียวก็ได้ 50% แล้วครับ ด้วย vivo FlashCharge 80W

OVERVIEW & OPINION

สำหรับแก้วแล้ว vivo V29 5G เป็นการปรับปรุงหลาย ๆ อย่างใน vivo V27 5G ที่อาจจะมีประสบการณ์ในบางส่วนที่ยังไม่ราบรื่น หรือ Smooth เพียงพอ ให้ดีมากขึ้น และยังเป็นการเติมลูกเล่นใหม่ ๆ ให้การใช้งาน การถ่ายภาพ และวีดีโอ สนุกกว่าเดิม ได้ประสิทธิภาพที่สูงกว่าเดิม


การออกแบบภายนอกนั้น อาจจะไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก แต่สีสันที่ออกมาใหม่ ถือว่าสะกดสายตา แฟน ๆ vivo รวมถึงแก้วได้อยู่หมัดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Starry Purple ที่เอาใจสายหวาน หรือ Magic Maroon ที่เอาใจ สายหรู ดูดี ก็ดีงามไม่แพ้กัน


และ ถ้าใครคิดว่า หน้าจอใน vivo V27 5G นั้นยอดเยี่ยมมากแล้ว ใน vivo V29 5G จัดมาให้โหดกว่าเดิม ด้วยขนาดหน้าจอ 6.78 นิ้ว ใช้ Panel หน้าที่เป็น AMOLED เกรดสูง และ อัพความละเอียดขึ้นเป็น 1.5K มีค่า PPI ของหน้าจออยู่ที่ 458 PPI ซึ่งสูงกว่า vivo V27 5G ถึง 70 หน่วย และรอบรับการรับชม Content แบบ HDR ในทุก App ไม่ว่าจะเป็น Youtube , Netflix ใช้ได้หมด


ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ ดูเผิน ๆ เหมือนเปลี่ยนน้อย แต่จริง ๆ แล้วเปลี่ยนเยอะพอสมควร ทั้ง Sensor กล้องหลักอย่าง ISOCELL GN5 ที่ถึงแม้จะดูเหมือนขนาดใกล้ ๆ กัน แต่ความสดใสใหม่นั้นมากกว่า และมีการ Fine Tuning มาใหม่ ให้รับแสงได้มากขึ้น 20%


ในส่วนของกล้องหน้า ก็โหดไม่แพ้กัน เพราะได้เอา ISOCELL JN1 มาใส่ในกล้องหน้า ครอบด้วย เลนส์มุมกว้าง ที่ให้องศาในการรับภาพ 92 องศา และแน่นอนว่า รอบรับการถ่าย Video 4K 30fps ในทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง พร้อมระบบ Eye Autofocus

ราคาของ vivo V29 5G นั้น เปิดตัวมาด้วยกันทั้งหมด 2 Spec ได้แก่

1. รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 14,999 บาท

2. รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 16,999 บาท

มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สีได้แก่ Starry Purple | Magic Maroon | Noble Black


เริ่มเปิด Pre-order ตั้งแต่ : 24 - 31 สิงหาคม 2566 วางจำหน่ายจริง 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

ของแถมสำหรับคนที่ Pre-order มูลค่ากว่าหนึ่งหมื่นบาท

1. Mini Wireless Speaker มูลค่า 899 บาท

2. V29 5G Limited Box Set มูลค่า 10,398 บาท ประกอบด้วย เคส 2 ชิ้น/ VIP Card รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และรับประกันจอแตก 1 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปีแรก

3. ส่วนลดมูลค่า 500 บาท

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์ #vivo #vivoV295G


0 ความคิดเห็น

Comentarios


bottom of page