top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

vivo V23 5G เครื่องเปลี่ยนสีได้ กล้องหน้า และกล้องหลังที่ยอดเยี่ยมทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ


SPECIFICATION
  • CPU : Mediatek Dimensity 920 5G 6nm

  • RAM 12GB + Virtual RAM 4GB

  • Dual mode 5G SA & NSA

  • Display 6.44-inch 2400×1080 (FHD+) AMOLED

  • Battery 4200 mAh | vivoFlashCharge 44W

  • USB-C | Bluetooth 5.2 | Wifi6

  • Android 12 | Funtouch OS 12

IN THE BOX : อุปกรณ์ภายในกล่อง

ภายในกล่องก็อุปกรณ์พื้นฐานมาให้ ครบถ้วนเลยทีเดียว ซื้อมาปุ๊บแกะกล่อง ใช้งานได้เลย แทบไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่มเลยครับ

  • Adapter vivoFlashCharge 44W

  • สายชาร์จ USB-A to USB-C

  • หูฟังแบบ USB-C พร้อม Dongle

  • คู่มือการใช้งาน และเข็มจิ้ม Sim Card

  • เคสใสแบบนิ่ม

DESIGN : งานออกแบบ

การออกแบบ vivo V23 5G ตัวนี้ เรียกได้ว่า ฉีกจาก Design เดิมของ V-Series ค่อนข้างจะหมดจดเลย เปลี่ยนจาก Bezel หรือขอบเครื่องที่เป็นแบบ มนๆ มาเป็นแบบ Flat แล้ว Shape ตัวมุมเครื่อง จะมีความโค้งมน ที่ สมมาตร

ซึ่ง Frame ของตัวเครื่องที่เป็นแบบ Flat นั้น ใช้วัสดุเป็นโลหะแบบ Aluminium aircraft grade ที่มีการ Hairline Polish ขัดแต่งมาอย่างสวยงาม และ ให้ความแข็งแรง และทนรอยขีดข่วนได้ดีมากๆ และให้สัมผัสที่ดีเวลาจับถือ

น้ำหนักตัวเครื่องเพียงแค่ 179 g และหนาเพียง 7.55 mm เท่านั้น

มาดูเรื่องของ สีสันตัวเครื่องกันบ้างครับ นี่แหละ คือ Highlight สุดๆ ในงาน Design ของรุ่นนี้เลย เพราะฝาหลังของรุ่นนี้ " เปลี่ยนสี " ได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Color Changing Glass โดยสีที่แก้วได้มาจะเป็นสีที่ชื่อว่า Sunshine Gold

สีดั้งเดิมของตัวเครื่องจะเป็นสีทองที่ก็ว่า สวยมากแล้วนะครับ จะมีความ Glitter สะท้อนแสงวิบวับ แต่พอเอาออกไปโดยแสงแดด หรือ โดนแสง UV อะไรก็ได้แบบจังๆ สีฝาหลังจะเปลี่ยนเป็น Cyan หรือสีฟ้าน้ำทะเลเลย สวยมาก

หรือ ใครที่มีไอเดียความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถที่จะหาของมาวางบนฝาหลัง แล้วใช้ ไฟฉาย ส่องลงไปเราก็จะได้ลายบนฝาหลังที่เปลี่ยนเล่นได้สนุกดีเหมือนกันนะครับ

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

vivo V23 5G มีขนาดหน้าจอที่ 6.44 นิ้ว ก็จะเล็กกว่ากลุ่ม Flagship เล็กน้อย แต่เป็นขนาดที่เราสามารถจะใช้งานมือเดียวได้ค่อนข้างสบายมาก สำหรับคนที่มืออาจจะไม่ได้ใหญ่ ตัวนี้พอดีมือมากๆ เลยละครับ Panel หน้าจอจะเป็นแบบ AMOLED | Refresh Rate 90Hz และ Resolution FHD+ (2408x1080 พิกเซล) ครับ

ในเรื่องของสีสันหน้าจอ แก้วรู้สึกว่า สีสันหน้าจอตัวนี้ ดูดีกว่าของ vivo V21 5G ขึ้นเยอะพอสมควรเลย Contrast สวย การปรับ Auto Brightness ก็ปรับได้รวดเร็วและค่อนข้างเหมาะกับ Ambience แสงโดยรอบได้ดี

ใครจะเอาดู Streaming Content ต่างๆ Youtube , Netflix นี่สบายๆ เลยล่ะครับ สีสวยด้วย พอหน้าจอแบบนี้มันมาอยู่กับขอบเครื่องแบบ Flat และขอบหน้าจอที่บางลง เลยทำให้ดู Premium มากขึ้นทีเดียว

สำหรับสายถ่ายภาพ หรือใช้งานกลางแจ้ง ที่กลัวจะมองหน้าจอไม่เห็น แสงหน้าจอของ vivo V23 5G สว่างเพียงพอกับการสู้แดดจ้าๆ ภายนอกได้สบายครับ ข้อนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเลย

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

สำหรับกล้องถ่ายภาพของ vivo V23 5G ตัวนี้นั้น ชุดกล้องหลังจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ดังนี้ครับ

  • Main Camera 64MP | f/1.9

  • Ultra Wide Angle 8MP | f/2.2 แบบ Fix Focus

  • Macro Camera 2MP | f/2.4

  • Main Front Camera 50MP | f/2.0

  • Wide Front Camera 8MP | f/2.8 แบบ Fix Focus

Spec กล้องก็จัดมาให้ตามสไตล์ Smartphone ระดับ Mid-High ที่เน้นให้ความสำคัญกับกล้องหลักที่มี Pixel สูงทั้งกล้องหน้าทั้งกล้องหลังเลย และในครั้งนี้ กล้องหน้าแบบมุมกว้างที่หลายๆ คนคิดถึงกันใน vivo V20 Pro 5G ก็กลับมาแล้วนะครับ แถมไฟล์ดีกว่าเดิมอีก ไปชมภาพกันครับ

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 64MP

สำหรับกล้องหลักของ vivo V23 5G นั้น ถือว่าเป็นกล้องหลักที่คุณภาพดีมากที่สุดตัวหนึ่งเลย ความละเอียด 64MP ที่สามารถ Crop ใช้งานได้จริง รายละเอียดอยู่ครบ การทำ Pixel Binning สามารถที่จะรวม Pixel ได้ดีมาก ไฟล์เนียนสวยเลย

ในแง่ของโทนสีตัวภาพ ต้องบอกว่า White Balance ในกล้องตัวนี้ " ถ้าเราเปิด AI " ภาพจะค่อนข้างติดโทนฟ้าเยอะพอสมควร และสีสันจะค่อนข้างสด แต่ถ้าเราปิด AI แล้ว ตัว White Balance จะแม่นยำขึ้นพอสมควร และสีสันยังสวยอยู่ แต่จะธรรมชาติมากยิ่งขึ้นครับ

ความสามารถในการใช้ Digital Zoom 2x แบบ Crop ยังให้ผลลัพท์ที่น่าพอใจมากๆ กลายเป็นเหมือนว่า มีกล้อง Medium Telephoto เอาไว้ใช้ในการ Zoom เลย อันนี้ต้องบอกเลยว่าใช้งานได้จริง

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

เป็นอีกครั้งที่ vivo V-Series ทำให้แก้วตื่นเต้นอีกแล้ว กล้องหลัก 64MP ตัวนี้ ถ่ายภาพ Portrait ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Skintone การเฉลี่ยแสงในภาพ Dynamic Range กำลังสวย และความสามารถในการใช้ HDR ช่วยย้อนแสง ก็ยังทำงาน อัตโนมัติในโหมด Portrait นี้อีกด้วย

ถ้าเมื่อกี้ยังย้อนจังๆ ไม่พอ เอาภาพนี้ไปเลย แสง Flare นี่มาสวยๆ เข้มๆ แต่หน้านางแบบไม่มีมืดเลย นอกจากนั้น ยังเก็บ Rim Light ตามขอบผมมาได้แบบเต็มๆ ส่วนในเรื่องของการตัดขอบ อาจจะสู้รุ่นพี่ vivo X-Series ยังไม่ได้ แต่นี่ก็น่าจะดีที่สุด ที่เคยเห็นจาก V-Series แล้วละครับ

พักจากการถ่ายภาพย้อนแสงมาลองถ่ายในสภาพแสงทั่วไปบ้าง การตัดขอบนี่คือ เนียนกริบ สวยมาก Software ในการเบลอฉากหลัง สามารถที่จะไล่ระดับมิติของการเบลอได้ดี ส่วนไหนที่อยู่ใกล้ตัวแบบจะเบลอน้อยหน่อย ยิ่งอยู่ไกล ก็จะยิ่งเบลอมากขึ้น

มาพูดถึงในเรื่องของ Beauty Mode กันบ้างครับ นี่คือ สิ่งที่พัฒนาขึ้นค่อนข้างชัดเจน มากๆ คือเรื่องความสามารถในการจัดการ Skintone และ ปรับผิวเนียน คือทำได้ดูเป็นธรรมชาติมากในทุกสภาพแสง ต้องบอกตามตรงว่า ดีขึ้นกว่า vivo V23e พอสมควรเลย

Filter และลูกเล่นในการถ่ายภาพ Portrait เกร๋ๆ แบบนี้ ได้มีการหยิบมาจาก X-Series อยู่หลาย Filter เลย และก็ยังสามารถให้ภาพที่สวยได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่ ในค่ายตัวเองเลย

ฟิลเตอร์ฟุ้งๆ ชวนฝันแบบนี้ก็มี การตัดขอบ กับ Skintone ก็สวยเหมือนเดิมครับ

Bokeh Flare Effect ต่างๆ ก็มีมาให้เราได้เลือกใช้งานกันหลากหลายเหมือนเดิม ทั้งแบบ Classic วงกลม หรือจะเป็นรูปดาว รูปหัวใจแบบภาพนี้ก็มีครับ

ระบบโฟกัส เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสุดๆ ใน vivo V23 5G ตัวนี้ เพราะว่า ระบบโฟกัสที่เคยอยู่ในระดับ Flagship อย่าง vivo X70 Pro 5G และ vivo X70 Pro Plus ได้ถูกนำมาใส่ในรุ่นนี้ด้วย ซึ่งจะได้แก่

  • Motion tracking autofocus

  • Body tracking autofocus

  • Eye Autofocus

โดยแต่ละตัวจะทำงานในระยะมุมมองภาพที่ต่างกัน ถ้าเราถ่ายภาพเต็มตัว Motion tracking autofocus กับ Body tracking auto focus จะทำงานก่อน เพื่อจับร่างกายตัวแบบให้เข้าโฟกัส และเมื่อเราเคลื่อนกล้องเข้ามาใกล้ จนเห็นดวงตา กล้องก็จะสลับเข้าไปที่ Eye Autofocus แทนครับ

ULTRA WIDE ANGLE : กล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP

ถึง Spec ในกล้องตัวนี้อาจจะดูเหมือนๆ กับ กล้อง Ultra Wide Angle แบบ Fix Focus ทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่แก้วว่าได้รับการปรับปรุงมาอย่างชัดเจนเลยก็คือ เรื่องของ ความคม และการรักษาคุณภาพของรายละเอียด ให้คมชัดทั่วทั้งภาพไม่เว้นแม้แต่ขอบภาพก็ตาม

องศาการรับภาพที่กว้าง 120 ํ ก็ถือว่าค่อนข้างกว้างเลย แต่ยังสามารถที่จะจัดการเรื่อง Distortion และ Chromatic Aberration มาได้เป็นอย่างดี โทนสี ถือว่าใกล้เคียงกล้องหลักมาก และ Dynamic Range ก็ทำได้ดีทีเดียว เมื่อเทียบกับกล้อง Ultra wide angle 8MP ด้วยกันเองในตลาด

เป็นกล้อง Ultra Wide Angle ที่ค่อนข้างไว้ใจได้ Balance ค่อนข้างแม่นยำ แต่พอเป็น Fix Focus มันก็มีทั้งข้อดี และข้อจำกัดเนาะ ถ่ายง่ายไม่ต้องกลัว Out Focus แต่ก็เอาไปถ่ายอะไรใกล้ๆ แบบภาพ Macro ไม่ได้ครับ

จุดที่ค่อนข้างน่าสนใจในกล้อง Ultra wide angle ตัวนี้นอกเหนือจากความกว้าง ก็คือความสามารถของ HDR ในการถ่ายภาพย้อนแสง แล้วตัวแบบหน้าไม่ดำ ไม่มืด รวมไปถึง ไม่มีอาการขอบม่วง ขอบเขียว เมื่อย้อนแสงเกิดขึ้นด้วย ซึ่งเรามักจะเจอในกล้อง Ultra wide angle ใน Smartphone ระดับกลาง

ยิ่งแฉก Flare ของของดวงอาทิตย์เวลาย้อนแสงเนี่ย สวยมาก เป็นแฉกๆ เลย HDR สามารถที่จะกด Highlight ลงไปได้ดี จนเราสามารถมองเห็น Shape กลมๆ ของดวงอาทิตย์ได้ชัดเจนขึ้น

MACRO PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพมาโคร

สำหรับการถ่ายภาพ Macro นั้น กล้อง Macro ที่เขาให้มาจะเป็นมีความละเอียดแค่ 2MP ทำให้ไฟล์ภาพจากกล้องตัวนั้นอาจจะไม่ได้หวังผลได้มากนัก แก้วเลยแนะนำว่า ให้ใช้กล้องหลัก กด Crop 2x แทนจะให้ Quality ของภาพที่ดีมากกว่าครับ

ด้วยค่า f/stop ต่ำแค่ 1.89 ทำให้สามารถที่เบลอฉากหลังในการถ่ายละลายฉากหลังได้ง่ายมาก

DUAL FRONT CAMERA : กล้องหน้าคู่ 50MP และมุมกว้าง

เรียกได้ว่าเป็นชุดกล้องหน้าในฝันของแฟนๆ vivo หลายคนเลย หลังจากที่ได้สัมผัสกันมาใน vivo V20 Pro 5G ครั้งนี้กลับมาแล้ว และ Quality ดีขึ้นกว่าเดิมมากพอสมควรเลยล่ะครับ

กล้องหน้าตัวหลัก 50MP ให้สีสันที่ค่อนข้างสดใส Dynamic Range ดีเท่ากล้องหลังเลย และที่สำคัญ สามารถจะละลายฉากหลัง ได้ด้วยกันไม่ต้องเปิด Software Bokeh ช่วยด้วยซ้ำ และกล้องหน้า Ultra Wide Angle ก็ถือว่าโอเคเลย โทนสีจะต่างจากกล้องหลักอยู่พอสมควร แต่เรื่องความคมดีมาก Beauty Mode ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน

ความละเอียด 50MP ในกล้องหน้าตัวหลักเนี่ย ใครที่ชอบถ่ายเสร็จแล้ว เอามาซูมดูจุดต่างๆ อย่างละเอียดน่าจะฟินมากเลย เพราะคมมาก การโฟกัสก็แม่นยำมากทีเดียว เพราะว่ามีทั้ง Body Detection และ Eye Autofocus ที่ทำงานในกล้องหลัง มาใช้ในกล้องหน้าด้วย

Software ในการละลายฉากหลัง ก็ทำได้ดีใช้ได้ครับ ปรับอยู่ในระดับสักประมาณ f/4 - f/2.8 กำลังสวย ถ้าต่ำกว่านั้น อาจจะเริ่มรู้สึกว่ามันลอยๆ นิดนึงแล้วครับ

แต่พอตัวกล้องมันเพียงพอที่จะละลายฉากหลังได้บ้างแล้ว หลายครั้งเลยรู้สึกว่า ชอบแบบที่ไม่ต้องเปิด Software Bokeh มาช่วยมากกว่า มันให้ Depth ที่กำลังดีและเป็นธรรมชาติมากกว่า

Filter สีสันต่างๆ ก็มีให้เลือกแบบเยอะมาก เยอะแบบเกิน 20 แบบแน่นอน คงไม่ได้ถ่ายมาให้ดูทั้งหมดนะครับ แต่แก้วเลือก Filter สีนี้มา ซึ่งเป็นโทนสีที่ เหมือนกับ Night Mode Filter ให้ภาพที่สวยแปลกตาดีครับ

และ แน่นอนว่ากล้องหน้าชุดนี้ยังมี Highlight อื่นอยู่ นั่นก็คือความสามารถในการ Selfie ในที่แสงน้อยที่ยอดเยี่ยมมาก ด้วย การให้แสงสว่างใบหน้า 2 แบบ ได้แก่ Soft Light ที่ใช้แสงจากหน้าจอ และ ไฟ Dual-Tone Spotlight Selfie ที่ติดมาปริเวณขอบเครื่อง ช่วย Fill แสงที่หน้า และทำให้มีแววตาสวย

ถ้าเราใช้ Soft Light จากแสงหน้าจอ จะกระจายแสงได้รอบใบหน้า ตัวกล้องจะวัดแสงในขณะที่ ไฟ Soft Light สว่างขึ้น ฉากหลังจะมืดกว่าตัวเราอยู่พอสมควร ซึ่งช่วยให้ใบหน้าของเรา จะ Separate ออกจากฉากหลังได้อย่างสวยงามครับ

ถ้าเป็นการใช้ Dual-Tone Spotlight Selfie จุดที่เด่นชัดมากที่สุดก็คือ แววตาของเรา จะมีจุดแสงเล็กๆ เกิดขึ้น ช่วยให้โดดเด่น และ ดูน่ามองมากยิ่งขึ้น ยิ่งเมื่อนำมาใช้กับ Filter ที่มีชื่อว่า Party คือ ได้สไตล์ภาพเท่ๆ ขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเลยครับ

หรือ ถ้าเราใช้ Night Mode ในการถ่ายภาพกล้องหน้า ทั้งฉากหลัง และตัวเราก็จะสว่างขึ้นในระดับที่เท่าๆ กันเลย บางคนที่ชอบภาพที่เคลียๆ เห็นรายละเอียดเยอะๆ น่าจะชอบแบบนี้

แต่ถ้าถามแก้วจริงๆ แก้วว่า Dual-Tone Spotlight Selfie แล้วถ่าย Selfie แบบธรรมดาเลยเหมาะสุด ได้ Skintone ที่สวย แววตาที่ฉ่ำ คม และ ลดรายละเอียดฉากหลังลง เพื่อให้เราเด่นขึ้นได้อีกด้วยครับ

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ

สำหรับงาน Video นั้น นี่คือ สิ่งที่ถูกยกระดับขึ้นอย่างชัดเจน อีกหนึ่งจุดใน vivo V23 5G ตัวนี้ อย่างแรกคือ เราสามารถที่จะถ่าย Video 4K ได้ในทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังแล้ว Frame Rate กล้องหลังสูงสุดที่ 60fps และกล้อง 30fps ครับ ในส่วนไมโครโฟน รู้สึกว่าดีขึ้น แต่อาจจะยังไม่ได้เท่ากับ Flagship อย่าง X70 Series แต่ สามารถจะ ดูดเสียงพูด และ ตัดเสียงรบกวนออกไปได้พอสมควร

ตัวกล้องหลักเวลานำมาถ่าย Video OIS ทำงานได้ค่อนข้างดีมากเลย เวลา Panning หรือ Moving Forward เนียนตาไม่สะดุด โดยที่ไม่ต้องเดินแบบย่องๆ ก็ได้ เดินปกติไปเลย เวลาเปิด EIS ขึ้นมา ภาพจะ Crop เข้าไปอีกประมาณ 15% และ ความละเอียดจะลดลงเหลือที่ 1080p

ในส่วนของกล้องหน้า 4K 30fps ในกล้องตัวนี้ต้องบอกว่าเหลือๆ Flagship หลายๆ ตัวอย่าว่าแต่ 4K เลย บางตัว 1080p 60fps ยังไม่มี เพราะฉะนั้น คุ้มมากๆ Eye Autofocus ในกล้องหน้า สามารถที่จะจับแววตา และใบหน้าของเราได้ตลอดเวลาไม่มีหลุด และ Mode Steady Face ก็ช่วยล็อกใบหน้าของเราให้อยู่ใน Frame ได้ดีครับ

นอกจากนั้นการถ่ายวีดีโอกล้องหน้าในเวลากลางคืนเราก็มี Dual-Tone Spotlight Selfie มาช่วยให้หน้าไม่มืดได้ แต่ถ้าอยากให้ฉากหลังสว่าง และหน้าไม่มืดด้วยละก็ เปิด Video HDR ในกล้องหน้าไปเลยครับ

แต่ถ้าเอาความรู้สึกจริงๆ ของแก้วนะ การถ่าย Videoที่ 4K 30fps ไม่ต้องเปิดอะไรช่วย ทั้งในกล้องหน้า และกล้องเนี่ย มันก็ดีมากแล้วครับ ไฟล์ดีมากสาย VLOG ที่เน้นคุณภาพต้องถูกใจแน่นอน

NIGHT TIME PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพ Night Mode ใน vivo V23 5G นั้น Character ของการ Process ภาพจะมีการเพิ่ม Clarity ในภาพขึ้นมาเล็กน้อย และพยายาม Balance แสงทั้งส่วนของ Highlight และ Shadow ให้อยู่ในระดับที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ขุดเงาเยอะจนเกินไป คุณภาพไฟล์ค่อนข้างดีมากเลยละครับ

ในกล้อง Ultra Wide Angle ในแง่ของความสว่างในภาพ ก็ถือว่าทำได้โอเคนะครับ แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ จะเริ่มเห็น Noise ได้บ้างแล้วตอบขอบภาพ เล็กๆ น้อยๆ และจุดที่เป็น Shadow ในภาพรายละเอียดจะเริ่มลดลงพอสมควรครับ

เอา Night Mode Color Filter มาเล่นกับแสงอาทิตย์ช่วงอาทิตย์ตก ก็ทำให้ภาพดูสวยงาม และมีสีสันที่แปลกตา นอกจากนั้น Night Mode ยังช่วยขุดรายละเอียดบางส่วนขึ้นมาให้เราเห็นได้ชัดเจนขึ้นด้วย

พอท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว Night Mode ใน vivo V23 5G ก็เริ่มแสดงพลังอีกครั้ง คือ คุณภาพไฟล์ แทบจะเท่าเดิมเลย ภาพสว่างใส เคลียมาก กด Highlight ในภาพได้กำลังดี และนู่น ถ่ายติดแสงจากดาวเทียมได้ด้วย

ไฟล์ภาพดีขึ้นกว่า vivo V23e อยู่พอสมควรในแง่ของของการจัดการ Noise และความสว่างของภาพ

PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ

ใน vivo V23 5G นั้น ได้มีการอัพเดต Funtouch OS มาเป็นเวอร์ชั่น 12 แล้วทำให้ Control Station ต่างๆ หน้าตาเมนูบางส่วน เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เป็นไปในทางที่ดีนะครับ สวย และใช้งานขึ้นง่ายมากๆ Icon ต่างๆ มีการจัดเสียงใหม่ และเปลี่ยนคู่สีให้สามารถมองได้ง่าย ทั้งใน Mode ปกติ และ Dark Mode

ในแง่ของ Spec ตัวเครื่องนั้น ใช้ CPU Dimensity 920 ที่เปิดตัวมาในช่วงปลายปีที่แล้ว และมาพร้อมกับ RAM ถึง 12GB + Virtual RAM 4GB ให้ RAM มาเยอะมากๆ เปิดใช้งาน Application Run Background ไว้เป็นแผงก็เอาอยู่

ตอนแรกก็มีความกังวลนิดๆ ว่า CPU ตัวนี้จะเอาอยู่เรื่องการเล่นเกมไหม ? หลังจากได้ลองโหลด Lineage 2M ซึ่งคุณภาพกราฟิกนั้น ห่างจาก Genshin Impact และ ROV หลายขุมมองลองเล่น บอกเลยว่า สบายๆ มาก

ตัว Setup ของคุณกราฟิก สามารถจะเปิดได้ High เกือบหมดเลย โดย Frame Rate จะอยู่ที่ 40-50 Fps ขนาด Snapdragon 888 ยังเอาเกมนี้นิ่งๆ ที่ 60fps ยังไม่ได้เลยครับ ฉะนั้นใครจะซื้อไปเล่นเกม ประสิทธิภาพของ vivo V23 5G ไม่เป็นรองใครในเรื่องนี้แน่นอน

ความสามารถในการใช้ 5G ก็สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบเลย SA & NSA ได้ประสบการณ์ 5G การรับสัญญาณก็แรงดีใช้ได้ นี่ขนาดว่าอยู่ชานเมืองมากๆ ยังได้ความแรงขนาดนี้เลยครับ

ในเรื่องของการจัดการพลังงานและแบตเตอรี่ ต้องบอกว่า vivo V23 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่จัดการความร้อน และพลังงานได้ดีมากๆ ถึงแม้ขนาด Battery จะดูเล็กแค่ 4200 mAh เท่านั้น แต่การอยู่ให้จบวันเนี่ย สบายๆ มาก จะเล่น Social ถ่ายรูปอีกสักเล็กน้อยก็ยังไหว การ Charge Battery อยู่ที่ 44W ใช้เวลา เกือบชั่วโมง ก็สามารถที่จะได้ Battery ที่เต็มแล้วครับ

OVERVIEW & OPINION

vivo V23 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ ยกระดับ V-Series ขึ้นอย่างชัดเจนมากๆ ทั้งในเรื่องของการ ออกแบบตัวเครื่อง ระดับของวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิต ได้ทั้ง Frame เครื่องแบบโลหะที่แข็งแรง และลูกเล่นฝาหลังที่เปลี่ยนสีได้ แบบที่ไม่มีใครนำมาทำจุดนี้ได้ลงตัวเท่านี้มาก่อน

ในเรื่องของการถ่ายภาพ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นค่อนข้างเยอะ อย่างแรกเลยที่แก้วว่าโดดเด่นมากๆ คือ กล้องหลัก 64MP ในกล้องหลัง และกล้องหลัก 50MP ในกล้องหน้า ที่ให้ไฟล์ภาพที่สวยงาม คุณภาพ Pixel ที่ดีมาก เมื่อใช้งานใน Mode Hi-resolution


สำหรับการถ่าย Video ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน สามารถจะถ่าย Video ได้ที่ 4K ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังกันเลย และไฟล์วีดีโอ ใช้งานได้จริงนะครับ ไม่ได้มีแค่ตัวเลขไว้คุย ตัวกันสั่น OIS ก็ดีมากแล้ว แต่ EIS Crop เข้ามามากเกินไปนิดนึง ไมโครโฟน ดีขึ้น แต่ยังห่างชั้นกับ vivo X70 Series อยู่ระดับหนึ่งเลยครับ

สำหรับมุมมองของแก้ว vivo V23 5G ค่อนข้างเหมาะกับคนที่ใช้งานทั่วไป ชอบ Smartphone ที่หรูหรา น้ำหนักเบา พกพาง่าย เน้นการใช้งานกล้องเป็นหลัก โดยเฉพาะกล้องหน้า ไม่ว่าจะเป็น Beauty Blogger คนทำงานที่ต้องแต่งหน้า หรือใช้กล้องหน้าในการถ่าย Video เนี่ย ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ ครับ

สำหรับราคาเปิดตัวของ vivo V23 5G จะอยู่ที่ 17,999 บาทเท่านั้น สามารถไป Pre-order กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ครับ ที่ vivo Brand Shop หรือตัวแทนจำหน่ายตามช่องทางต่างๆ นะครับ

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

IG : kaew.ravie

#ถ่ายรูปด้วยมือถือ #vivo #vivoV235G #คมชัดทุกโมเมนต์ที่คุณเป็น

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page