สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว แล้วก็ Smartphone จากทาง vivo กันอีกครั้งนะครับ วันนี้แก้วอยู่กับ vivo V30e 5G เป็นน้องเล็กสุด ของ vivo V30 Series ที่ทยอยเปิดตัวกันออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปี มาในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าเดิม แต่ยังคงจุดเด่นเรื่องกล้อง พร้อมไฟ Aura Light Portrait 3.0 ไปจนถึง Design ที่สวยงาม ใช้จริงมาแล้วเป็นยังไงบ้าง ไปชมรีวิวกันครับ
SPECIFICATION
Chipset : Snapdragon 6 Gen 1
RAM 8GB + 8GB Extended RAM | Storage 256 UFS 2.2
Display : 6.78 inches AMOLED Curved Display | FHD+ | 120Hz
Operation system : Funtouch OS 14 | Android 14
Sim Card Triple Slot ใส่ซิมได้ 2 ซิม และ หรือ microSD Card 1TB
Mono Speaker
Bluetooth 5.1 | USB Type-C 2.0 | Wifi Dual Band
Battery 5500mAh | 44W vivo FlashCharge
WHAT'S IN THE BOX : อุปกรณ์ภายในกล่อง
เครื่อง vivo V30e 5G
44W Adapter Charge | USB-C Cable
Protection Case Transparent
Protection Film
Sim Card Ejector
Manual Guide
DESIGN : การออกแบบ
ต้องบอกว่าในปีนี้ vivo V30 Series 5G ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม มีงานออกแบบตัวเครื่อง ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์มาก ๆ น้องใหม่อย่าง vivo V30e 5G ตัวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน ยังคงเน้นไปที่ความหรูหรา และความบางเบาเหมือนเดิม
สีตัวเครื่องที่แก้วนำมารีวิวให้กับทุกคนได้ดูกัน จะมีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Cloud White และ สี Coco Brown ซึ่งสวยทั้ง 2 สีเลย แต่ว่าจะมี Mood & tone และลูกเล่นที่แตกต่างกันกันออกไป เรามาดู Detail ของสีแรกกันก่อน
สี Cloud White ก็ตามชื่อครับ สี Base จะเป็นสีขาว แต่ว่ามีการนำเทคโนโลยีในการสร้าง Effect สีรูปแบบใหม่ มาใช้เป็นครั้งแรก ที่จะให้ Effect สะท้อนแสง เป็นริ้วแสงที่ส่องผ่านก้อนเมฆออกมาได้อย่างสวยงาม ให้ลุคที่ดูคลีน เรียบร้อยสวยงาม
โดยที่สี Cloud White จะมีความบางตัวเครื่องเพียงแค่ 7.65mm และน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 179 กรัม คือถ้าเราคิดว่า Dimension ประมาณนี้ แต่ซ่อนแบตเตอรี่ความจุ 5500mAh ไว้ในเครื่อง จะรู้เลยว่า vivo เก่งเรื่องนี้ขนาดไหน
ส่วนอีกหนึ่งสี อย่างสี Coco Brown ต้องว่าสีนี้ เป็นสีที่แก้วชอบเป็นส่วนตัว มันมีกลิ่นของสี Magic Maroon ในรุ่นก่อนหน้าที่ให้ความรู้สึก หรูหรา ดูเป็นผู้ใหญ่ดี แต่ในรุ่นนี้พิเศษขึ้นไปอีก เขาได้มีการนำเทคนิคในการทำสี 2 รูปแบบมาอยู่ในเครื่องเดียวกัน
พื้นที่โดยส่วนใหญ่ของตัวเครื่อง จะเป็นผิวด้าน แต่เวลาโดนแสงจะมีการเล่น Glitter เล็ก ๆ ตัดกับ Trim บริเวณขอบด้านขวาของตัวเครื่อง มีการใส่ Effect เป็น ลวดลายที่เป็นเส้นแนวทแยงตัดกัน คล้าย ๆ กับ ลายสก๊อต เวลาสะท้อนแสงจะสวยงามมาก โดยที่สี Coco Brown จะมีความหนาตัวเครื่องที่ 7.75 และน้ำหนัก 188 กรัม ถึงจะมากกว่า Cloud White เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าบางก็คู่แข่งหลาย ๆ ตัวอยู่ดี
ส่วนของ Module กล้องเป็นจุดที่แก้วชอบมากที่สุดในงานออกแบบของ vivo V30e 5G เพราะว่า มีการหยิบยก Element ของการออกแบบนาฬิกามาใช้งาน เช่น ขอบของ Module กล้องจะเป็น Pattern คล้ายกับ ขอบ Fluted และสะท้อนแสงแบบ Sun Burst เหมือนหน้าปัดนาฬิกาหรู
ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นที่อยู่ของ Port USB-C 2.0 ถาดใส่ซิมแบบคู่ ที่เราสามารถจะเลือกใส่ microSD Card ได้ด้วย ความจุสูงสุดที่ 1TB มีไมโครโฟน มีลำโพงมาให้ ซึ่ง vivo V30e 5G เรายังได้ลำโพงเดี่ยว หรือ Mono Speaker อยู่นะครับ ส่วนด้านบนก็จะมี ไมโครโฟนอีกหนึ่งตัวครับ
DISPLAY : หน้าจอแสดงผล
ปีนี้เป็นปีที่ vivo มาแปลกจริง ปกติใน vivo V Series ที่เป็นตัว " e " มักจะได้รูปแบบหน้าจอที่เป็นจอแบน เหมือนกับตอน vivo V29e 5G เมื่อปีที่แล้ว แต่รอบนี้ให้เจอโค้งที่มี Spec ใกล้เคียงกับ vivo V30 5G มาเลย โดยจะมี ขนาดของหน้าจอจะอยู่ที่ 6.78 นิ้ว เป็นในรูปแบบของ Curved Display หรือ หน้าจอโค้ง และใช้ Panel หน้าจอเป็น AMOLED ให้ Resolution มาอยู่ที่ FHD+
คุณภาพการแสดงผลสีสันต่าง ๆ เวลาเราใช้งานทั่วไป แทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากหน้าจอ ของรุ่นพี่ vivo V30 5G และ vivo V30 Pro 5G เลย ให้ Contrast ที่สวย เวลาเล่น Social Media การแสดงผลภาพถ่ายต่าง ๆ ก็ให้สีสันที่สดใช้ได้เลย ค่า Pixel Density หน้าจอจะอยู่ที่ 388 PPI
สำหรับการเอาไปรับชม Content Streaming ต่าง ๆ นั้น ต้องบอกว่า ทำได้ค่อนข้างดี ดู Youtube ได้ที่ 4K 60fps และ App Streaming ดัง ๆ อย่าง Netflix , Disney+ , Amazon Prime ได้ที่ L1 แต่หน้าจอนี้ยังไม่รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ นะครับ ไม่แน่ใจว่า จะมีการปรับปรุง Software มาให้ทีหลังหรือไม่ เพราะ Spec หน้าจอมีขอบเขตสีถึง 1B กันเลยทีเดียว
และ ได้ Sensor Fingerprint หรือการสแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้จอ ในรูปแบบ Optical ตำแหน่งการจัดวางจะค่อนข้างต่ำนิดหนึ่ง แต่ด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่ได้ใหญ่มาก เอื้อมนิ้วลงมาสแกนได้ไม่ยาก Response ก็รวดเร็วดีมากครับ
หลายคนกังวลว่า เป็นรุ่นน้องเล็กสุดใน vivo V30 Series ความแข็งแรงของตัวเครื่อง และกระจกหน้าจอจะถูกลดทอนลงไปไหม ? ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า หมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลยครับ เพราะ vivo V30e 5G เครื่องนี้ มีโครงสร้างภายในที่ออกแบบมาลดแรงกระแทกเป็นอย่างดี กระจกหน้าจอ ใช้วัสดุเป็น ลิเธียมอะลูมิโนซิลิเกต ของบริษัท SCHOTT Xensation® จาก Germany และได้ IP Rating อยู่ที่ IP64 ด้วยนะครับ
ความสว่างหน้าจอสูงสุด หรือว่า Peak brightness ของ vivo V30e 5G ตัวนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะให้มาสูงถึง 1300nits Local Peak Brightness ซึ่งสู้แสงแดดช่วงกลางวันได้ดี และเพียงพอต่อการใช้งานนอกบ้านแน่นอนครับ แต่ช่วงอาการร้อนจัด แสงจอจะเริ่มลดลง เมื่อใช้งานต่อเนื่องประมาณ 15 นาที หรือ อุณหภูมิเครื่องสูงเกิน 42°C ขึ้นไปนะครับ
CAMERA : กล้องถ่ายภาพ
มาถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันบ้างนะครับ เป็นอีกจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว เพราะได้ Sensor กล้องหลักตัวใหม่จาก Sony และฟีเจอร์การถ่ายภาพ ที่เรียกได้ว่า ยกรุ่นพี่ vivo V30 5G มาแบบจัดเต็ม ไปดู Spec กล้องกันก่อนเลยครับ
กล้องหลัก ความละเอียด 50MP | f/1.79 | IMX882 1/1.9″ | AF
กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8MP | f/2.2 | GalaxyCore GC08A3 | Fix Focus
กล้องหน้า ความละเอียด 32MP | Galaxycore GC32E1 | f/2.0 | Fix Focus
เป็นหนึ่งใน vivo V30 Series 5G ทั้งที ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ไฟ Aura Light Portrait 3.0 ที่ให้แสงสว่างนุ่มนวล ช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพ Portrait ในช่วงกลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้ดี และปรับอุณหภูมิของแสงไฟ ช่วยให้ Skintone ตัวแบบตรงที่สุด ไม่โดน Ambience Light โดยรอบมากวนด้วยครับ
อย่างที่แก้วได้เกริ่นไปตอนแรกว่า vivo V30e 5G นั้น ให้ฟีเจอร์การถ่ายภาพมาใกล้เคียงกับรุ่นพี่มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Picture Profile 3 รูปแบบ Natural | Vivid | Textured หรือจะเป็นลายน้ำสวย ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ไปจนถึง การถ่ายภาพด้วย RAW File และ การลากชัตเตอร์ได้ยาวนานสูงสุด 32 วินาที สายถ่ายดาว ยิ้มแน่นอน
MAIN CAMERA : กล้องหลัก 50MP | IMX882
เรามาเริ่มกันที่กล้องหลักของ vivo V30e 5G ตัวนี้กันเลยนะครับ ต้องบอกว่าตอนแรกที่แก้วได้เห็นว่า จะมีการใช้ Sensor ตัวใหม่จากทาง Sony อย่าง IMX882 ซึ่งขนาด Sensor นั้นก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายนัก ก็เลยไม่ได้คาดหวังมาก แต่พอได้ลองกดถ่ายภาพไป 10 - 20 ก็แบบ อื้อหือ เอาเรื่อง !!
Character และลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพนั้น จะเน้นที่ความสำเร็จรูป มีการ Process ช่วยเหลือที่ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ Auto HDR ที่ช่วยขยาย Dynamic Range และเฉลี่ย แสงในภาพให้ Balance กัน ไปจนถึง Boost สีสันในภาพให้สดขึ้น สำหรับแก้ว Picture Profile แบบ vivid คือ เหมาะกับรุ่นนี้ที่สุด
Detail และรายละเอียดของภาพ เวลาเราเอาไปถ่ายภาพ Landscape , Cityscape ถือว่าใช้ได้เลย เอาจริง ๆ ฟีลมันใกล้เคียง IMX890 ที่ใช้อยู่ในเรือธงเมื่อปีก่อนหน้านี้ปลาย ๆ ตัว มีการเติมความคม หรือ Sharpness เข้ามากำลังดี ไม่คมจนเกินไป
จุดที่แก้วชอบมากที่สุดคือ Software Auto HDR ใน vivo V30e 5G ไม่ว่าจะอยู่ในกล้องตัวไหน หรือ โหมด อะไร สามารถทำงานได้ค่อนข้างดี ถ่าย Portrait ย้อนแสงหน้าไม่มืด ถ่ายทิวทัศน์ก็ช่วยเปิดส่วนเงา ดึง Detail ใน Highlight กลับได้ในระดับที่กำลังพอเหมาะ
Depth of field ของกล้องหลักตัวนี้ ถ้าเราถ่าย Object ในระยะห่างสัก 1 ฟุตขึ้นไป มันอาจจะไม่ได้ให้ การละลายหลังที่ดีมาก เท่ากันรุ่นพี่ vivo V30 5G และ vivo V30 Pro 5G แต่ระยะโฟกัสใกล้สุดของกล้องหลักตัวนี้ ไม่ถึง 15 ซม. ซึ่งใกล้มาก
เราสามารถใช้การ Zoom 2x หรือ 3x เพื่อใช้ในการถ่ายภาพ Macro Photography ได้สบาย จะใช้ในการถ่ายภาพดอกไม้ ถ่ายภาพเครื่องประดับ นาฬิกา ก็ทำได้สบายครับ
หรือใช้ In Sensor Zoom เพื่อการถ่ายภาพ หรือปรับ Focal Length ในระยะ 2x - 3x สามารถรักษารายละเอียด และคุณภาพไฟล์เอาไว้ได้ดีมาก ๆ Auto Focus ก็ยังทำงานได้ดี แต่ถ้าหากเรา Zoom เข้าไปในระยะมากกว่า 3x จะเริ่มเห็นการสูญเสียรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้นนะครับ
PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล
นี่คือสิ่งที่หลายคนเวลาอยากได้สมาร์ทโฟน จากทาง vivo จะคิดถึงเป็นเรื่องแรก ก็คือ การถ่ายภาพ Portrait ที่ยอดเยี่ยม ลูกเล่นเยอะ และจบหลังกล้องพร้อมลง Social Media ได้ทันที ซึ่ง vivo V30e 5G เครื่องนี้ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง
ระยะในการถ่ายภาพ Portrait เราสามารถปรับได้ทั้งหมด 2 ระยะเหมือนเดิม ก็คือ 1x และ 2x ที่เป็นการ In Sensor Zoom เข้าไป ตัว Algorithm ในการทำ Image Reproduction ทำได้เก่งพอ ๆ รุ่นพี่ใน Series ทั้ง 2 ตัวจริง ๆ เหมือนมี Telephoto 2x มาให้จริง ๆ
ตอนแรก ๆ ก็พยายามลอง Test ก่อนว่า คุณภาพไฟล์สำหรับการถ่ายภาพ Portrait ในระยะ 1x | 2x มันแตกต่างกันมากแค่ไหน ? ผลลัพท์ที่ออกมาก็คือ แทบไม่ต่าง ถ้าไม่พยายาม Zoom ดูบนหน้าจอใหญ่ ๆ เราสามารถใช้ ระยะ 2x ในการถ่ายภาพ Portrait ได้อย่างสบายใจ
การ Simulation ตัว Depth of field หรือ การใช้ Software เบลอฉากหลังนั้น ความแม่นยำ คุณภาพในการตัดขอบ ใกล้เคียงรุ่นพี่ vivo V30 5G มาก ๆ คือถ้าไม่พยายามแกล้งมัน จริง ๆ แทบไม่หลุดเลย ตำแหน่งที่ Bokeh ถูก Generate ขึ้นมามีความสมจริง เม็ด Bokeh ขึ้นในตำแหน่งที่ควรจะขึ้น และขนาดไม่ได้ดูใหญ่เกินไปจนผิดธรรมชาติ
ใครที่ถ่ายมาแล้ว รู้สึกว่าไม่ค่อยถูกใจระดับของการเบลอฉากหลัง ก็สามารถที่จะมาปรับแต่งภายหลังได้
แล้วก็เรื่องของ Skintone Beauty Mode ปกติแล้ว แก้วมักจะชอบ Custom การปรับแต่งของ Beauty Mode พวกนี้ด้วยตัวเอง เพราะเราอยากให้มันไม่ดู Over process จนสูญเสียความสมจริงของตัวแบบไป แต่ Beauty Mode แบบ Natural Auto ใน vivo V30e 5G Process ออกมาถูกใจแก้วมาก ผิวสว่าง เนียนกำลังดี เผลอ ๆ จะทำได้ดีกว่ารุ่นพี่ของตัวเองด้วย ในหลาย ๆ สถานการณ์
เวลาตัวผิว โดนแสงตรง ๆ Software Auto Exposure สามารถทำงานได้แม่นยำ ใบหน้าไม่ขึ้น Highlight ใช้ Auto HDR ดึง Detail ในส่วนเงาขึ้นมานิดพอประมาณ จบหลังกล้องได้สบาย สวยใส สาว ๆ ชอบกันแน่นอน
vivo V30e 5G เครื่องนี้ ก็ใส่ " BEACH PORTRAIT Filter " มาให้เหมือนกับรุ่นพี่ทั้ง 2 รุ่น ที่จะเป็นการหยิบคู่สีแบบ Orange & Teal มาปรับใช้กับภาพ ทำให้สีส้ม และสีฟ้า จะดูเด้งขึ้นมา จะมีการ Process HDR กับ Bokeh ที่ต่างไปจาก Mode Portrait ปกติ
ถ้าเราใช้ BEACH PORTRAIT ถ่ายย้อนแสง หรือถ่ายในสภาพแสงที่มี Highlight เยอะ ๆ Software จะไม่ดึง Highlight กลับมามากนัก เหมือนต้องการจะให้ได้ภาพที่เป็นแสงแบบ High key
นอกจาก Style ภาพแบบใหม่แล้ว Style ภาพดั้งเดิมของ vivo V Series ก็ยังอยู่ครบ ให้เราเลือกมาใช้งานในการถ่ายภาพได้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น Film Cinematic , French Impression , Blue Ocean ก็มีให้ใช้กันเพลิน ๆ เลยครับ
เวลาที่เราต้องเจอสภาพแสงที่มันไม่เอื้ออำนวย เช่น ไม่มี Key Light ส่องตัวแบบ หรือ มีแสง Ambience จากสิ่งโดยรอบส่องมาหาแบบ จน Skintone เพี้ยน ไฟ Aura Light Portrait 3.0 ช่วยทำได้ แบบทำถึงเหมือนเคย
จะใช้เป็น Fill Light เติมแสงใบหน้าเพื่อลบเงาก็ได้ หรือ จะเข้าที่มืดสนิท แล้วยิงไฟเป็น Key Light ถ่ายภาพฟีล Y2K ก็ใช้ได้ นอกจานั้น ตัวระดับของไฟ Aura Light Portrait 3.0 ก็จะมีการปรับอุณหภูมิสีให้เราแบบอัตโนมัติ ได้อย่างแม่นยำ
แล้วก็จะมี Effect เฉพาะที่ใช้ร่วมกับไฟ Aura Light Portrait 3.0 ซึ่งเป็นการสร้าง Bokeh กระจายตัวขึ้นมารอบ ๆ และปรับโทนสี Color Temperature ให้เป็นโทนอุ่นสวย ๆ
ULTRA WIDE ANGLE : กล้องมุมกว้าง 8MP | FOV 120˚ | GC08A3
มากันที่กล้องตัวต่อไปครับ นั่นก็คือ กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8MP ซึ่งเมื่อหยิบมาเทียบกับ vivo V30 5G รุ่นพี่ที่ราคาสูงกว่าอยู่นิดหน่อย แต่เราจะรู้สึกต่างมากเลย ทั้งในเรื่องของขนาด Sensor ไปจนถึง Resolution
จริงที่ว่า ดูด้อยกว่ารุ่นพี่ใน vivo V30 Series 5G ทั้ง 2 ตัวก็จริง แต่เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกันในตลาด ก็คือว่า อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คุณภาพไฟล์เวลานำมาใช้งานจริง ก็ถือว่า ใช้ได้ Software Auto White Balance ทำงานได้แม่นยำดี ในสภาพแสงปกติ ให้สีสันของภาพที่ใกล้เคียงกับกล้องหลัก
ส่วนใครที่ต้องการ Dynamic Range ของภาพที่กว้าง แก้วแนะนำให้เปิด Auto HDR ทิ้งเอาไว้เลย เพราะว่านอกจากกล้องตัวนี้ จะวัดแสงออกมา ติด Under Exposure นิด ๆ แล้ว Dynamic Range เมื่อมาเทียบกับกล้องหลัก ต่างกันพอสมควรเลย
การจัดการ Distortion กับ Chromatic Abberation ถือว่าใช้ได้ ตามมุมภาพอาจจะมีความ Soft อยู่นิด ๆ ตามสไตล์กล้อง Ultra Wide Angle 8MP ในช่วงระดับราคานี้ เอาจริง ๆ สำหรับแก้วก็คือ ใช้ถ่ายรูปได้โอเค ไม่ได้รู้สึกว่าใช้ถ่ายรูปแล้วหวังผลไม่ได้ แค่ Ultra Wide Angle ในรุ่นพี่ ๆ ปีนี้ เขาให้มาสุดจริง
ทำให้ใครที่มีความคิดว่า จะมีโอกาสได้ใช้ กล้อง Ultra Wide Angle บ่อย ๆ และต้องการไฟล์ที่มีคุณภาพสูงดีไม่แพ้กับกล้องหลัก vivo V30 5G กับ vivo V30 Pro 5G เป็นตัวเลือกที่ดี และคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
FOOD PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพอาหาร
ถึงแม้ว่าใน vivo V30e 5G เครื่องนี้ จะไม่มี Food Mode มาให้ แต่ด้วยความที่มีไฟ Aura Light Portrait 3.0 และตัว Mode Portrait นั้น สามารถนำมาถ่ายอย่างอื่นได้อีกนอกจากภาพบุคคล นั่นก็คือการถ่ายอาหารนั่นเอง
Trick ที่แก้วแนะนำ คือ ให้ตั้ง Profile สี เป็น Vivid เปิด HDR ใช้ Portrait Mode 2x แล้วเปิดไฟ Aura Light ช่วย ภาพที่ได้ จะมีความสว่างโดยเฉลี่ยที่ดีขึ้น และสามารถที่ลดความเพี้ยนของสีสัน ที่มาจาก Ambience Light โดยรอบลงไปได้ เวลาเราไปคาเฟ่ แล้วเจอไฟสีเหลือง ๆ ก็รอดแน่นอนครับ
FRONT CAMERA : กล้องหน้าความละเอียด 32MP | GC32E1
กล้องหน้าของ vivo V Series มักจะเป็นจุดเด่นที่เราคาดหวังได้อยู่แล้ว สำหรับ vivo V30e 5G ตัวนี้ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่า Sensor จะไม่ได้ 50MP ใน Tier เดียวกับรุ่นพี่ ๆ ในค่ายตัวเอง แต่เมื่อได้ลองใช้งานจริงแล้ว คุณภาพนั้น ดีใช้ได้เลย
องศาในการรับภาพของกล้องหน้านั้น กว้างใช้ได้เลย จะมี Focal Length ที่ 19mm ซึ่งสามารถจะ Selfie ตัวเองครึ่งตัวได้โดยที่ไม่ต้องยื่นแขนออกไปจนสุด แต่เราไม่สามารถจะปรับระยะของกล้องหน้าได้นะครับ
Software ในการละลายฉากหลังนั้น ตั้งแต่การสร้าง Bokeh ไปจนถึงการตัดขอบ ผลลัพท์ที่ได้ คือ ใกล้เคียงกับรุ่นพี่มาก ๆ Depth of field ก็มีการไล่ระดับที่สวยงาม ซึ่งในช่วงราคานี้ จะหาใครมาเปรียบกับกล้องหน้า ของ vivo V30e 5G นี่หาไม่ได้ง่าย ๆ เลย
Beauty Mode ของ vivo V30e ลูกเล่นในการปรับแต่ง ก็มีมาให้เยอะ พอ ๆ กับ Portrait Mode ในกล้องหลัง จะปรับละเอียดด้วยตัวเองก็ได้ หรือ จะใช้การปรับแบบ Auto อย่าง Natural ก็ได้เหมือนกัน
LOW LIGHT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพในที่แสงน้อย
การถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ vivo V30e 5G เราสามารถใช้งาน Night Mode ได้ในกล้องทุกตัว ตั้งแต่กล้องหลัก กล้อง Ultra Wide Angle ไปจนถึงกล้องหน้า แต่ถ้าเทียบคุณภาพไฟล์แล้ว กล้องหลัก เป็นกล้องที่เราคาดหวังได้มากที่สุด
ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพ ใน Night Mode ของ vivo V30e 5G จะเน้นไปที่ความใส ความคม ก็คือ จะมีการทำ Noise Reduction เยอะพอสมควร และเติม Sharpness และ Clarity เพื่อให้ภาพดู Punchy มากขึ้น เรียกได้ว่า ยิ่งแสงน้อยเท่าไหร่ ภาพก็จะถูก Process หนักขึ้นเท่านั้น
ในส่วนของตัวสีสันของภาพในช่วงกลางคืน มีการ Boost Saturation ให้สีสดขึ้นกว่าช่วงกลางวันเล็กน้อย โดยที่สีสันในกล้องหลัก จะมีความสดใสกว่า กล้อง Ultra Wide Angle พอสมควร คิดว่ามาจาก Sensor ที่เลือกใช้ อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก
ระยะเวลาในการ ลากชัตเตอร์ของ Night Mode เพื่อรับแสง ใช้เวลานานกว่ารุ่นพี่ vivo V30 5G อย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าฟ้ายังมืดไม่สนิท จะอยู่ที่ 2 วินาที แต่ถ้าท้องฟ้ามืดสนิทไปแล้ว อาจจะใช้เวลามากถึง 4-5 วินาทีเลย
ระยะหวังผลของการ Zoom ใน Night Mode ที่เราคาดหวังได้ จะอยู่ที่ไม่เกิน 2x เท่านั้นนะครับ
RAW FILE PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ RAW FILE
มากันที่เรื่อง RAW File Performance กันบ้างนะครับ สำหรับ vivo ในปีนี้ ตั้งแต่ Entry Level อย่าง vivo Y100 5G มาจนถึง vivo V30e 5G มีการใส่ Raw File ในกล้องหลักมาให้ ซึ่งเมื่อนำไปใช้งานจริงแล้ว นี่ไม่ใช่แค่ Features ที่ vivo ใส่มาให้เป็น Gimmick แต่เป็นฟีเจอร์ที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง
รูปแบบของ RAW File จะเป็น Sensor RAW ที่ไม่ได้มีการ Process อะไรมาให้เลย ทำให้ในบางสภาพแสง เราเห็นจุดรบกวนในส่วนมืดของภาพได้อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็น Luma Noise นะครับ หรือ จุดรบกวนที่เป็นสีขาว พวก Color Noise แทบไม่มีให้เห็นเลย
ความยืดหยุ่นของไฟล์ แก้วค่อนข้างแนะนำว่า ให้ถ่ายที่ ISO ประมาณ 200 จะได้ Dynamic Range ที่ดีที่สุด ส่วนเงาเก็บมาได้ครบ ส่วน Highlight สามารถถึงกลับมาได้เยอะใกล้เคียงกับ กล้องหลักในรุ่นพี่ vivo V30 5G
เวลา Process หนัก ๆ ก็ไม่ค่อยเจอ Pixel Artifact หรือ การสูญเสียรายละเอียด อย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วย ทำให้ใครที่เบื่อการถ่าย Auto อยากฝึกถ่ายภาพด้วย RAW File vivo V30e 5G ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าให้แนะนำจริง ๆ สาย Pro อัพขึ้นไปเล่น vivo V30 5G จะโอเคมากกว่าในระยะยาวครับ
VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ
สำหรับการถ่ายวีดีโอใน vivo V30e 5G นั้น เราสามารถถ่าย Video ได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30fps ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง กล้อง Ultra Wide Angle นั้นจะยังสามารถถ่ายได้แค่ 1080 30fps หลาย เห็นประสิทธิภาพดูน่าสนใจ แต่ว่าส่วนนี้มีข้อพิจารณาอยู่นะครับ
เมื่อเราใช้ Resolution ในระดับ 4K การกันสั่นของกล้อง ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า หรือกล้องหลังนั้น อาจจะยังนิ่งไม่เพียงพอที่เราจะสามารถเดินถือถ่าย เพื่อ Vlog ได้ เหมาะกับการตั้งบนขาตั้งกล้อง เพื่อนั่งถ่ายเป็น Talking Head หรือ ถ่ายอยู่กับที่มากกว่า ซึ่งก็แอบน่าเสียดายนะ เพราะ Bitrate Video กับคุณภาพเนื้อไฟล์ คือ โหดมาก อยู่ที่ 60mbps กันเลยทีเดียว ถ้ากันสั่นดีควบคู่กันไปด้วยจะดีมาก ๆ เลย
ส่วนถ้าใครที่ จำเป็นจะต้องใช้งานเพื่อ Vlog จริง ๆ แก้วแนะนำให้ใช้ Resolution ที่เป็น 1080p แล้วเปิด กันสั่น Digital หรือ Super Steady เพิ่มเติมดีกว่า ซึ่งสามารถจะใช้งานได้ทุกกล้อง ตั้งแต่กล้องหลัก , Ultra Wide Angle ไปจนถึงกล้องหน้าเลยครับ
จุดที่เป็นข้อดี และเป็นจุดที่น่าเสียดายในเวลาเดียวกัน คือ 4K 30fps ในกล้องหน้าครับ เพราะเนื้อไฟล์ให้ Bitrate มาค่อนข้างเยอะ Detail ดี แม้จะเจอที่แสงน้อย หรือถ่ายในสภาพแสงที่เป็นการย้อนแสง การวัดแสง และ White Balance ก็ทำได้ดี แต่ที่น่าเสียดายคือ กล้องหน้า ในรุ่นนี้ ไม่มี Autofocus มาให้เหมือนกับรุ่นพี่ ๆ ใครที่ชอบรีวิวสินค้า อยากยื่นของเอามาหน้ากล้อง แล้วให้มีการ Focus ก็อาจจะไม่เหมาะครับ ไปใช้รุ่นพี่ ๆ ใน vivo V30 Series 5G จะตอบโจทย์กว่า
PERFORMANCE : ประสิทธิภาพ
Chipset ของ vivo V30e5G นั้น จะใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 6 Gen 1 ซึ่งถามว่าแรงกว่า Snapdragon 695 5G ที่อยู่ใน vivo V29e 5G เยอะไหม ? ก็ต้องบอกว่าถ้าเอาตัวเลข Antutu มาเทียบ จะแรงกว่า 28% โดยเฉพาะ Multi-Core จะเห็นความต่างชัดมาก
จากที่แก้วได้ใช้งานมา 2 สัปดาห์ ถ้าเป็นการใช้งทั่วไป ใช้งาน Social Media การใช้งาน Application สำหรับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นจากทาง Google อย่าง G Suite ใช้งานได้อย่างราบรื่น
หรือจะเป็นการใช้งานพวก Multi-tasking เปิดพร้อมกันหลายแอพ ก็สามารถใช้งานได้ Refresh rate อาจจะ Drop จาก 120Hz ลงมา 60Hz ได้บ้างในบางช่วง แต่ก็ดีมาก ๆ แล้วสำหรับราคานี้
ในเรื่องของการเล่นเกม จริง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดหวังมาก แต่ให้ผลลัพท์ ได้น่าพอใจทีเดียว แก้วเล่นเกม Wuthering Waves ด้วย Graphic Setting ประมาณ High และ Resolution แบบ Low สามารถจะได้ Frame Rate โดยเฉลี่ยประมาณ 50fps ขึ้นไป
คือถ้าฉากโล่ง ๆ หน่อย ไม่ได้มี Monster , NPC , หรือระยะการมองเห็นที่ไกลมากนัก เราก็ได้ Frame Rate ถึง 60fps ได้ไม่ยาก
ส่วนใครที่เล่นเกม กราฟิกไม่ได้สูงมาก อย่างพวก Cabal Infinite Combo ที่เปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ Graphic Setting ปรับระดับ High ได้เลย และ Frame Rate นิ่ง 60fps แม้จะมีคนอยู่ในฉากมากมายก็ตาม
ส่วน Battery Life เป็นอีกจุดที่ vivo V30e 5G เครื่องนี้ ทำได้โหดมาก ๆ คือ ถ้าเราใช้งานทั่ว ๆ ไป ใช้ทำงาน เล่น Social Media นิดหน่อย พร้อมกับการใช้งาน 5G ตัว Screen on time ที่ทำได้จะมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไปได้แบบไม่ยากเย็นอะไรเลย อย่างวันที่แก้วเอาออกไป Test กล้องถ่ายภาพมาให้ทุกคนได้ดูกัน ถ่ายต่อเนื่องไป 4 ชั่วโมง แบตลดไปไม่ถึง 50% ด้วยซ้ำครับ
ความเร็วในการชาร์จ จาก 0% - 100% ทำได้อยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ด้วยกำลังไฟสูงสุดที่ 44W ครับ
OVERVIEW & OPINION
vivo V30e 5G ในมุมมองของแก้ว เป็น vivo V Series ตัวเริ่มต้น ที่พยายามรักษาจุดเด่นของตัวเองเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่มาในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าเดิม มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น Design ตัวเครื่องที่หรูหรา สวยงาม มี Build Quality ที่เราไว้ใจได้ ทั้ง Frame ตัวเครื่อง และกระจกหน้าจอจากบริษัท เยอรมัน
กล้องถ่ายภาพที่ใช้ Sensor จากทาง Sony อย่าง IMX882 ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่สดใหม่ สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี แม้ ขนาด Sensor จะไม่ได้ใหญ่มากก็ตาม มาพร้อมกับ Portrait Mode ที่สามารถถ่ายภาพบุคคลได้ 2 ระยะ และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ ไฟ Aura Light Portrait 3.0 ที่เราคุ้นเคยกัน
และ เป็น vivo V Series ทั้งที การถ่าย Video ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง ก็ต้อง Resolution ระดับ 4K อยู่แล้ว ซึ่งเนื้อไฟล์ไว้ใจได้เลย ให้ Bitrate มาที่ 60mbps ในกล้องหลัง และ 30mbps ในกล้องหน้า อาจจะเรื่องกันสั่นที่ ยังสู้รุ่นพี่ใน Series ตัวเองไม่ได้ เหมาะกับการเอามาขึ้นขาตั้งกล้องมากกว่า แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เดิน Vlog จริง ๆ ลด Resolution มาที่ 1080p 60fps ก็ได้ความนิ่งที่ไว้ใจได้มากกว่า
Snapdragon 6 Gen 1 เป็น SoC ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งาน Daily Use ที่ Reliable ไม่ได้แรงมากมายอะไร แต่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป ไปจนถึงการเล่นเกมที่กราฟิกไม่ได้สูงมากนัก การจัดการความร้อนและพลังงานที่ดี ความร้อนโดยเฉลี่ย ประมาณ 36°C - 39°C และ SOT ต่อวัน 8 ชั่วโมงได้สบาย ๆ
ราคา และช่องทางการจัดจำหน่าย vivo V30 5G
- vivo V30e 5G 8GB+256GB ราคา 11,999 บาท
- เริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้ รับฟรี E-VIP มูลค่า 5,999.- (สิทธิพิเศษรับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี และรับประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก)
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie