สวัสดีครับ วันนี้ก็ถึงเวลากับรีวิวกล้อง Smartphone ที่หลายคนรอคอยกันมานาน จากทาง Vivo นั่นก็คือ vivo X60 Pro + พี่ใหญ่ ตัว Top สุดในเวลานี้ ที่มีกล้องถ่ายภาพ ที่ร่วมพัฒนากับทาง Zeiss จัดหนัก จัดเต็มกว่าตัว vivo X60 Pro 5G ที่ขายในบ้านเราค่อนข้างเยอะ ไปชมรีวิวกันครับ
Overall Specification
Qualcomm Snapdragon 888
RAM 8GB (LPDDR5) / 12GB (LPDDR5)
Storage : 128GB/256GB (UFS 3.1) OriginOS บน Android 11 *ทีเด็ด
Speaker : Mono Speaker
Connectivities : Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C
Fingerprint ใต้จอ , Face detection color spectrum
Battery : 4200mAh, รองรับชาร์จไว 55W ไม่มีไร้สายนะครับ
DESIGN : งานออกแบบ
เป็นงาน Design ที่เรียกได้ว่า ลงตัว และหรูหราที่สุดตัวหนึ่งในตลาดเลย ฝาหลังเป็นแบบ หนัง Vegan Leather หนังเทียมเกรดสูงกว่า PU ทั่วไป มีความทนทาน และสัมผัสที่ดี สีที่เห็นในภาพนี้คือ สี Emperor Blue
ด้วย Module กล้องที่เรียบง่าย แต่สวยงาม ด้วย Double Layer Camera Module การเรียงตัวของกล้อง ทั้ง 4 ตัว ออกมา สมมาตรดีมากๆ มี Logo ของ ZEISS แสดงไว้อย่างชัดเจน ช่วยให้สมาร์ทโฟน ตัวนี้ดู Professional มากขึ้น สัญลักษณ์ T* แสดงถึง Anti-reflective ที่ป้องกันแสงสะท้อน ด้วย Nano-Crystalize
บริเวณ Choker ด้านบน มีการยิง Laser คำว่า Professional Photography ที่เป็นเอกลักษณะ ของ Series นี้เอาไว้อย่างชัดเจน เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับผู้จับถือใช้งานได้ไม่น้อยเลยครับ
บริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง จะเป็นที่อยู่ของ Port USB-C ช่องลำโพง ( ลำโพงเดี่ยวอีกแล้วจ้า ) แล้วก็ช่องใส่ Sim บริเวณด้านล่าง สามารถใส่ได้ 2 Sim พร้อมกับ เปิด 5G ได้ 2 Sim พร้อมกันเลยนะ อย่างโหด
ขอแสดงความเสียใจกับคนที่ไม่ชอบ Smartphone จอโค้งด้วยครับ เพราะ Vivo X60 Pro Plus โค้งแบบ สุดๆ แต่ต้องยอมรับนะว่า พอโค้งแล้วมันสวย มันดูหรูหรา เวลาเลื่อนอะไรบนหน้าจอมันเต็มตาดีจริงๆ
DISPLAY จอแสดงผล
หน้าจอของ vivo X60 Pro Plus นั้น ค่อนข้างจะเล็กกว่า Flagship รุ่นอื่นๆ ในตลาด โดยอยู่ที่ 6.56 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ Friendly กับคนที่ใช้งาน Smartphone ด้วยมือข้างเดียวมากๆ เพราะเราสามารถจับถือ แล้วใช้งานทุกส่วนของหน้าจอได้สบาย โดยที่ไม่ต้องเอื้อมมากนัก
ความละเอียด Full-HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz, อัตราตอบสนอง 240Hz, HDR10+, สว่างสูงสุด 1300 nits เราอาจจะรู้สึกว่า โหยย ทำไม Resolution หน้าจอมันน้อยจัง ซึ่งก็น้อยจริงแหละ ขนาดแก้วเองยังรู้สึกเลย แต่ว่า ก็ทดแทนได้ด้วย Battery ที่จะทนขึ้น บนความลื่นระดับสูงสุด และการปรับแสงระดับสูงสุด
Camera : กล้องถ่ายภาพ
Highlight ของรุ่นนี้ ทุกคนรู้อยู่แล้วนะครับ นั่นก็คือ ชุดกล้องหลัง จากการ Collab กับทา ZEISS ที่ไม่ได้ ได้มาแค่ Software การถ่ายภาพ แต่ได้มาถึง เทคโนโลยีการ Coating และการผลิตชิ้นเลนส์เลย โดยกล้องหลังนั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัวครับ
กล้องหลัก 50MP f/1.57 ระบบโฟกัส dual pixel PDAF และกันสั่น OIS
กล้อง Ultra-Wide 48MP มุมกว้าง 114 องศา ระบบกันสั่นแบบ Gimbal 2.0
กล้อง Telephoto 32MP f/2.1 ระบบโฟกัส PDAF และ Optical Zoom 2x
กล้อง Periscope 8MP f/3.4 ระบบโฟกัส PDAF, OIS และ Optical Zoom 5x
กล้องหน้าแบบเจาะรู ตรงกลาง ความละเอียด 32MP มีมุมมองที่กว้างระดับกลางๆ
เอาละครับ เรามาดูภาพถ่ายจากกล้องแต่ละตัวกันดีกว่า เราจะเริ่มกันที่กล้อง Ultra Wide Angle 48MP กันก่อนเลยครับ
เป็นกล้อง Ultra Wide Angle ที่ไม่ได้มีความกว้างมากนัก อยู่ที่ 114 ํ เท่านั้น แต่ด้วยความละเอียดของภาพสูงถึง 48MP ทำให้เป็น กล้อง Ultra Wide Angle ที่ให้รายละเอียดได้ดีมากทีเดียว ทั้ง Dynamic Range และ ความคม ใกล้เคียงกล้องหลักเลย
เวลาถ่ายย้อนแสงด้วยการที่มีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนมาที่หน้าเลนส์ ทำให้สามารถ ดึงสีสันของท้องฟ้า และส่วนต่างๆ ในภาพกลับมาได้ค่อนข้างดี จะมีเรื่องของ Distortion ที่สามารถมองเห็นได้อยู่เล็กน้อย ถึงแม้จะมี Software ที่ฝังในการช่วยแก้เรื่องนี้มาแล้วก็ตาม
ในเรื่องของ Dynamic Range ในภาพต้องบอกว่า Software ในการทำ HDR ใน vivo X60 Pro Plus มีความเก่ง ในลักษณะ เดียวกันกับตัว vivo X60 Pro 5G คือ จะลด Highlight ในภาพ ลงพอประมาณ ให้เห็นรายละเอียด และจะไม่ขุดเงาขึ้นมา จนภาพมันแบน
ในส่วนของ Color tone ของกล้องนี้ ต้องบอกว่าคล้ายกับกล้องหลัก จะออกไปในทาง อมฟ้าเล็กๆ เมื่อผสมกับสีของแสงในบ้านเราแล้ว จะให้ค่าสีที่ค่อนข้าง ลงตัว โดยงาม ไม่ได้สดจนเกินไป ปิด AI นะครับ
และ แน่นอนว่า นี่อาจจะกลายเป็น Ultra Wide Angle ที่สามารถถ่าย Macro ได้ในระยะ 5-6 ซม. ด้วยความละเอียดภาพ 48MP ซึ่งมันเพียงพอที่เราจะเอาไปใช้งานต่อได้เลยครับ ใครทำงานสายเครื่องประดับ หรือของชิ้นเล็กๆ แล้วอยากได้กล้องดีๆ ไว้ใช้ถ่ายงาน ตัวนี้ ตอบโจทย์ครับ
มาดูภาพจากกล้อง ความละเอียด 50MP กันบ้างครับ
แน่นอนว่า นี่คือ กล้องหลักที่คุณภาพสูงสุดที่ในหมู่สมาร์ทโฟน vivo ทุกรุ่นที่เคยทำมา ทั้งในแง่ของ คุณภาพ ของ Pixel และ Dynamic Range ในเรื่องของ Character ของสีภาพใน vivo X60 Pro Plus เกือบ ทุกกล้องจะมีสีอมฟ้า แต่หากมีสีสันอื่นในภาพ ยังจะสามารถแสดงสีออกมา ได้ตรงกับความเป็นจริงอยู่
อีกหนึ่งอย่างที่เป็น Highlight ในกล้องหลักตัวนี้ ก็คือเรื่องของ มิติภาพ ในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ด้วย Sensor ที่ใหญ่มาก และค่า f/stop ที่ต่ำเพียง 1.57 ทำให้การถ่ายภาพ หน้าชัดหลังเบลอ ทำได้ง่ายขึ้นมากๆ แถม Bokeh สวยทีเดียว
ที่ว่า ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายเนี่ย ง่ายจริงๆ นะ ขนาดระยะห่างประมาณ 2 ฟุต ฉากหลังที่ Bokeh ขึ้นแบบสวยๆ แบบภาพนี้เลย ใครชอบอะไรแบบนี้ จะหลงรัก กล้องหลักตัวนี้แน่นอน
แต่มีข้อควรระวังในการใช้งานกล้องตัวนี้คือ หากเราต้องการถ่าย Object ที่อยู่ใกล้มากๆ ระยะชัดของกล้องตัวนี้จะแคบมาก เวลาเราเข้าใกล้วัตถุ ทำให้บางครั้งเวลาถ่ายภาพ วัตถุจะเข้าโฟกัสไม่ครบทั้งหมด ที่หลายๆ คนชอบบ่นขอบฟุ้ง จริงๆ เป็นข้อดี แต่เราแค่ต้องเข้าใจมัน แล้วใช้ให้ถูกต้องนะครับ
พอค่า f/stop มันต่ำๆ เนี่ย มันสามารถที่จะถ่ายภาพในเวลาที่แสงน้อยได้ดี และยิ่งทำงานคู่กับ Software หลายๆ ส่วน ที่ทำได้ดีกว่า vivo X50 Pro 5G แบบผิดหูผิดตา อย่าง Noise reduction และ HDR ทำให้เวลาเราถ่ายภาพ Landscape ที่อาจจะมีย้อนแสงบ้าง คุณภาพของภาพ ไม่ได้ลดลงไปเลย
เอากล้องหลักมาถ่าย Panorama แต่ก็ไม่ใช่ Panorama ปกตินะครับ แต่เป็น Night Mode Panorama เพื่อช่วยในการถ่ายภาพย้อนแสง และ ขุดรายละเอียดในเงามืดขึ้นมา Software พวกนี้ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ ตอนมืดสนิทนะ ตอนแสงน้อยๆ ก็เอามาใช้ได้แล้ว
Telephoto 2x ความละเอียด 32MP เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดี ในการถ่ายภาพให้แก้วได้ค่อนข้างมาก เพราะว่า ระยะ 2x คือ ระยะ 50mm มันช่วยให้เรา Focus สิ่งที่เราถ่ายเข้าไปได้ ลด Distortion หรือ Perspective Effect ลงได้ ยิ่งมันมี Pixel ที่สูงขึ้น มันทำให้คุณภาพของกล้องนี้ เอาไปใช้เงานต่อได้ ไม่ต่างจาก กล้องหลัก หรือ กล้อง Ultra Wide Angle เลย
คนชอบงานสถาปัตยกรรมเนี่ย บอกเลยว่าต้องรัก เลนส์ Telephoto 2x มากแน่นอน
นอกจากนั้นแล้ว ในระยะ Telephoto 2x เป็นระยะ ที่เราสามารถเอามาถ่าย Product หรือสินค้า หรือแม้กระทั่งอาหารได้อย่างสวยงาม มี Perspective ที่สวยงาม
นอกจาก Pixel เยอะ จะมีประโยชน์แล้ว ด้วยค่า f/stop ของเลนส์ที่ 2.1 เราสามารถ เอาข้อได้เปรียบตรงนี้มาสร้าง Foreground ในภาพได้อีกด้วย
การถ่ายภาพ Portrait
สำหรับการถ่ายภาพ Portrait มันก็ให้ Result ที่ยอดเยี่ยม เหมือน vivo x60 Pro 5G เลย หรือจริงๆ ต้องใช้คำว่า vivo x60 Pro 5G ถ่ายได้สวยเหมือน vivo x60 Pro Plus มากกว่า 55 5 Skintone สวย ตัดขอบแบบ ไร้ที่ติ และการไล่ระดับเบลอ ฉากหลังที่แบบว่า เอ๊ะ นี่กล้องจริงๆ แล้วแหละ
Telephoto 2x ความละเอียดสูง 32MP คือ อีกหนึ่ง Highlight สำหรับรุ่นนี้ เพราะนี่น่าจะเป็น Portrait เลนส์ที่มีความละเอียดสูงที่สุด เท่าที่เราเคยเห็นมาแล้ว และเมื่อเอามันมาใช้กับ Biotar ของ ZEISS ก็ตามภาพเลยครับ
การเก็บรายละเอียดของผิว ที่ไม่ทำให้ผิวเนียนจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ก็ทำได้ดี แล้วก็ยังมี Software ช่วยในการใช้ Beauty แบบแยกเพศ ให้ด้วยนะครับ เพื่อที่เวลาเราถ่ายภาพผู้ชาย มันจะได้ปรับ ออกมาให้เหมาะสมกับผู้ชายครับ
เวลาเอามาถ่ายภาพย้อนแสงก็ทำได้ดีทีเดียว ยังเก็บรายละเอียดของใบหน้า เอาไว้ได้ครบ แล้วก็รายละเอียดในฉากก็ไม่หายไป แถมยังตัดขอบ ค่อนข้างจะดีมากๆ อีกด้วยนะครับ เรียกได้ว่า Portrait เนี่ย มาใช้ vivo X60 Series จะตัวไหนก็ได้ เปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นได้ยากแล้วครับ
มาดูภาพ Portrait ในเวลากลางคืนบ้างครับจะสู้น้องในค่ายตัวเองได้ไหมน้า ?
สิ่งที่ค่อนข้างจะเห็นความต่างได้อย่างชัดเจนเลยคือ รายละเอียดของผิว และฉากหลัง ใน Telephoto 2x นั้น ค่อนข้างจะมีกว่า vivo X60 Pro 5G อยู่ในระดับหนึ่ง รวมไปถึง ลักษณะ ของ Bokeh ที่ปรับค่า f เอาไว้แค่ 2.0 ก็เริ่มจะหมุนเบลอ ตามสไตล์ Biotar แล้ว
พอเปลี่ยนมาใช้กล้องหลักในการถ่าย Portrait ในสภาพแสงที่ มีแสง Ambience เข้ามาโดนตอบแบบค่อนข้างเยอะ และหลากหลาย เราจะเห็นความพยายามในการรักษา Skintone เอาไว้ ดูตรงสี ลิปสติก ได้ครับ ยังไม่ได้โดนไฟเหลืองกระทบมากนัก
อยากให้ดูรายละเอียดในภาพนี้ครับ เราเห็นได้แม้กระทั่ง เงาของขนตา ส่วนที่เป็นเงามืดในภาพ มีการ ไล่ระดับ Dynamic Range ได้สวยงาม ไม่ได้มืดสนิทจนเสีย Detail ไปเลย Beauty Mode ยังรักษาคุณภาพในการเกลี่ยผิวให้เป็นธรรมชาติได้ แม้จะในที่แสงน้อยก็ตาม
ไปกันในจุดที่มืดกว่าเดิมอีกสักหน่อยครับ จุดที่เห็นได้เด่นชัดที่สุด ก็คือเรื่องของการพยายาม Noise Reduction จุดรบกวนที่เกิดขึ้นในเวลากลางคืน แต่ก็ไม่ได้เละเป็นวุ้น จน Texture หายแบบ Night Mode สมัยก่อนแล้ว Bokeh ข้างหลัง
ถึงแม้จะมีแสง Ambience แบบเข้มๆ มากวน ก็เลยก็ตาม แต่ Beauty Filter ก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีครับ
ดูกันมาจนถึงตอนนี้แล้ว บอกเลยว่า เรื่องของการถ่ายภาพ Portrait อะ จะรุ่น Pro ธรรมดา หรือ Pro Plus ทำได้ยอมเยี่ยมทั้งคู่ครับ สะดวกตัวไหนไปจัดกันได้เลย สบายๆ
มากันถึงกล้องตัวสุดท้ายแล้วครับ นั่นก็คือ กล้อง Telephoto Periscope 5x ความละเอียด 8MP เอาจริงๆ ตอนแรกอะคิดว่า ยกมาจาก vivo X50 Pro 5G เลย แต่ที่ไหนได้ มาเหนือกว่านั้นมาก ทั้งเรื่องของกันสั่น และความคม จากภาพนี้บอกได้ว่า ถ้าชัตเตอร์ลั่นได้ไม่เร็วพอ คงไม่เห็นนกบินผ่านเมฆ สวยๆ แบบนี้แน่ๆ
ระยะการซูมของ Telephoto 2x และ 5x ค่อนข้างจะต่างกันเยอะพอสมควรครับ รายละเอียด และโทนสีที่ถูกต้อง จะอยู่ใน Telephoto 2x ส่วน Periscope จะเริ่มติดเขียวๆ แล้ว แต่ Detail ยังดีเหมือนเดิม
ใครบอกว่า Periscope ไม่ได้ใช้หรอกเอามาทำไม แก้วกล้าพูดเลยนะว่า ถ้าเป็นคนที่สนใจการถ่ายภาพจริงๆ เลนส์ Periscope 5x และ Telephoto 2x จะช่วยให้เราได้มุมมองที่ใหม่ และแปลกตากว่าเดิมมาก
เอาไปถ่ายงานสถาปัตยกรรม เน้นเส้นสาย เน้นลวดลาย ก็ทำได้ดี คุณภาพไฟล์คือหายห่วงเลย
ถ่ายย้อนแสงยามอาทิตย์ขึ้น เป็นภาพซิลูเอท ก็ทำได้ยอดเยี่ยม แถม Dynamic Range ไม่ได้กระจอกด้วยนะ สังเกตในแนวตึกดีๆ ทุกคนจะเห็นมิติของตึกต่างๆ ที่อยู่ในภาพ มีความลึกความตื่น ด้วย Fog of distance
หรือ จะเอาไปส่องหามุมถ่ายอะไรที่มันดู Minimal ก็ได้ เห็นช่วงนี้ เพื่อนๆ สายนี้เข้าเพจมาเยอะเลย
ภาพนี้อยากให้ดูว่า ถึงแม้จะเป็นสีฟ้า แต่ Auto White Balance ของกล้องสามารถแยกสีฟ้าที่มีความเข้มต่างกัน เฉดสีต่างกัน ออกมาได้ค่อนข้างชัดเจนเลย ไม่ได้มีจุดไหนถูกกลืน หรือสีเพี้ยนไป
กล้องหน้า Front Camera
กล้องหน้าในตัวนี้เหมือนกับกล้องหน้าใน vivo X60 Pro 5G ที่ขายในบ้านเราเป๊ะๆ ให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 32MP มุมมองภาพระดับกลางๆ ไม่ได้กว้างมากนัก Beauty Mode ที่ทำมาให้สำหรับผู้ชาย ช่วยให้ ภาพไม่ดูบิ้วตี้จนเกินไป
Dynamic Range ของกล้องหน้านี่ เอาจริงๆ เหมือนกล้องหลักเลย การเก็บรายละเอียด ความคมต่างๆ เป็นกล้องหน้าอีกตัวที่ทำออกมาได้ดีมากๆ
และ Beauty Filter ทำงานตอนที่ใส่ Mask ด้วยนะครับ ปรบมือให้เลย เยี่ยมมาก
การถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือ Night Mode จริงๆ ให้รายละเอียดได้ดีกว่า vivo X60 Pro 5G อยู่ในระดับหนึ่งเลยครับ ทั้งในกล้องหลัก และกล้อง Ultra Wide Angle
ภาพนี้เป็น Night Mode จากกล้องหลัก ถ้าเพื่อนๆ เอาไปเปิดเทียบกับ ภาพจาก vivo X60 Pro 5G จะเห็นได้ว่า Noise ในตัว Pro Plus ค่อนข้างต่ำกว่า ไฟล์ภาพดีกว่า ความคม และ Texture ขอภาพ ไม่มีวุ้นเลย
เหมือน Software ในรุ่นนี้ ถูกสั่งมาให้ว่า อย่ามืดจนไม่เห็นรายละเอียด และอย่างสว่าง จนภาพขาดมิติ คุณลักษณะ แบบนี้โผล่มาในทุกเลนส์ ทุกโหมด ของ vivo X60 Pro Plus เลย แม้กระทั่ง Night Mode
Night Mode กลายเป็น Mode ที่ไม่ได้ถูกสงวนไว้ให้กล้องตัวใด ตัวหนึ่ง เราสามารถใช้ Night Mode ได้ทุกกล้อง ตามแต่ที่เราต้องการ ตั้งแต่ Ultra Wide Angle ไปจนถึง Periscope กันเลย
พวก Filter สี ก็ยังมีมาให้เล่นสนุกกันเหมือนเดิม ชอบสีนี้ เหมาะกับรถแก้วพอดี
Mode Super Moon ก็มีมาให้เหมือนเดิมครับ
Performance & Battery Efficiency
สำหรับการใช้งานในด้านการใช้งานทั่วไป ต้องบอกว่า vivo X60 Pro Plus ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กับเรื่องการถ่ายภาพ Battery ที่อยู่ได้ยาวจนจบวันแบบเหลือๆ การชาร์จไว 55W ที่มี Adapter และอุปกรณ์มาให้พร้อม สรรพ
จะดูหนังจะเล่นเกม CPU Snapdragon 888 ตัวนี้ พร้อม RAM 12GB + 3 GB ก็คือ เหลือๆ ครับ ที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่จับ Snapdragon 888 มา เหมือน vivo X60 Pro Plus จะเป็นตัวที่สามารถจัดการความร้อนได้น่าประทับใจมาก
จะเล่นเกมยาวๆ หรือ ถ่าย Video 4K ต่อเนื่องสัก 40 นาที ก็ไม่มีตัด ร้อนแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจับไม่ได้เหมือนบางตัวที่ใช้ Chipset เดียวกันครับ
ใช้ 5G ของไทยได้สบาย แถมเปิด 5G ได้สอง Sim พร้อมกันด้วยนะ อีกข้อหนึ่งที่น่าจะเรียกว่าจุดเด่นได้ก็คือ ถ้าเราใช้ 5G ต่อเนื่องทั้งวัน แบตไม่ไหลครับ ปรบมือให้ ทำดีจริงๆ
Overview & Opinion
สำหรับแก้วแล้ว vivo X60 Pro Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่กลายเป็นก้าวสำคัญ ให้ vivo ขึ้นมาเป็นแนวหน้าในวงการ Camera Phone อย่างแท้จริง ทั้งคุณภาพของ Hardware และ Software ที่เรียกได้ว่า ไม่มีข้อกังขาใดๆ ในการร่วมมือ กับ ZEISS ในครั้งนี้
Mode การถ่ายภาพ ไม่มีกั๊ก ใส่มาให้เต็มๆ เลนส์ครบช่วงที่คุณภาพดีทุกตัว ใช้งานได้จริงทุกตัว ต่อให้ คนที่ใช้ ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ หรือคนที่ถ่ายรูปเก่ง ผมกล้าพูดว่า มันจะทำให้คุณรู้สึกถึงความมีเอกลักษณ์ และความแตกต่าง ของ Smartphone ที่เน้นกล้องในตลาด อย่างชัดเจน
--------
ข้อติมีไหม ? มีสิครับ เรื่องใหญ่เหมือนกัน เป็น Flagship สูงสุดของค่าย แต่ยังใช้หน้าจอ FHD+ อยู่เลย แถมยังมีลำโพงที่ตัวเครื่องมาให้แค่ 1 ตัว ( ถึงแม้ว่ามันจะดีก็เถอะนะ ) และไม่มี Wireless Charge โอ้ นี่ Flagship ประจำปี 2021 แล้วนะ ใส่มาเถอะครับ ปิดท้ายด้วย ไม่มีเรตติ่งการกันน้ำ กันฝุ่นที่ชัดเจน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่น่าเสียดายจริงๆ ก็คงไม่พ้น มันไม่เข้ามาขายไทยนี่แหละ ใครอยากจะสัมผัส Smartphone ตัวนี้ ต้องซื้อเครื่องหิ้วเท่านั้นนะครับ
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์ #ถ่ายรูปด้วยมือถือ #vivoX60Pro5G #PhotographyRedefined #vivoxZEISS #vivoX60ProTH #vivoX60ProPlus
Comments