top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

VIVO X70 Pro 5G การกลับมาของ Pro Camera Phone และ Bokeh ใหม่จาก ZEISS

รีวิวนี้เป็นรีวิวที่แก้วรอคอยจะทำมามากๆ ต้องขอบคุณทาง vivo ประเทศไทยด้วย ที่นำเครื่องรุ่นนี้เข้ามาเร็วขนาดนี้ กับ vivo X70 Pro 5G ที่สุดของ Flagship Camera Phone จากทาง vivo ที่เข้ามาเขย่าตลาดไทยประจำปีนี้ ไม่เสียเวลาครับ ไปดูรีวิวกันดีกว่า

DESIGN เสริม Look ความเป็นกล้องโปร

จุดแรกที่แอดมินแก้วชอบมาก ตั้งแต่ตอนที่เปิดตัวในประเทศจีนเลย คือเรื่องของงาน Design ไม่คิดว่า vivo จะหยิบความเป็นกล้อง ที่มันดู Manly มากๆ มาปรับใช้กับงานออกแบบตัวเครื่องของตัวเอง ให้มันดู Professional และดูเท่ในเวลาเดียวกัน

บริเวณ Module กล้องก็มีการออกแบบใหม่ โดยอ้างอิง Shape ดั้งเดิม ที่เน้นความเรียบง่าย แต่มีลูกเล่น แบบ Double Layer และแยกส่วนแฟลช กับกระจกครอบหน้ากล้องออกจากกัน

จริงๆ แล้วแอดมินแก้ว สีฝาหลังแบบนี้มันให้ความรู้สึกดูแมนๆ เท่ๆ ไม่แน่ใจเลยจริงๆ ว่าจะเข้ากับผู้หญิงได้ไหม ? แต่ตอนถ่ายรีวิว ลองให้นางแบบถือเครื่องดู อ้าววว เท่เฉย ! สาวๆ คนไหนอยากได้สีดำเท่ๆ แบบนี้ไม่กล้องกลัวว่าจะไม่เข้ากับ Character ตัวเอง รับประกันว่า ถือแล้ว เท่แน่นอน ชอบๆ

ในส่วนของหน้าจอนั้น ไม่ได้มีความต่างจากตัว vivo X60 Pro 5G เลยก็ว่าได้ครับ โดยจะเป็นหน้าจอแบบ E5 AMOLED FHD+ แบบขอบโค้ง ขนาด 6.56 และมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz รองรับ HDR10+

ที่เรียกว่า Ultra O Screen เพราะย้ายกล้องหน้าความละเอียด 32MP f/2.45 มาอยู่ตรงกลาง องศาการรับภาพกว้างกว่าตัว vivo X60 Pro 5G เล็กน้อย

เอาไปดู Content ที่รองรับการแสดงผลแบบ HDR 10+ เนี่ย บอกเลยว่าฟินมาก สีสวย รายละเอียดดี

ความบางเบา คือ หัวใจของการออกแบบ Smartphone จากทาง vivo จริงๆ vivo X70 Pro 5G มีความหนาเพียง 7.99mm และมีน้ำหนักแค่ 183g โดยประมาณเท่านั้น

บริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง ก็จะมี Port USB-C ช่องใส่ SIM และ ช่องลำโพง น่าเสียดายอีกแล้ว ที่ได้รู้ว่า ลำโพงคู่ หรือ Dual Speaker นั้นมีแค่เฉพาะในตัว Pro Plus เท่านั้น ตัวนี้ยังเป็นลำโพงเดี่ยวอยู่ เสียงก็มีย่านแหลมที่ชัดเจนกว่าของ vivo X60 Pro 5G เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คล้ายกันมากๆ

ถึงตัวเครื่องจะบาง แต่การจับถือ หรือ Grip เนี่ย สบายหายห่วงครับ
PERFORMANCE : ประสิทธิภาพ
  • CPU Mediatek Dimensity 1200 - vivo 5G Platform

  • LPDDR4x RAM 12 GB + Extended RAM 4 GB

  • ROM 256 GB แบบ UFS 3.1

  • Mali-G77 MC9

  • รองรับ 5G SA และ NFC

  • Bluetooth 5.2 | Wifi6 | USB-C 2.0

  • แบตเตอรี่ 4450 mAh รองรับ 44W Vivo Flash Charge 2.0

  • Funtouch OS 12 เสียดาย ไม่ได้ Origin OS มาอยากให้ลองจริงๆ

  • Linear Motor + Infrared Remote Control

เพื่อทดสอบ Performance ของ CPU Dimensity 1200 ที่หลายคนกังขาว่า มันแรงไม่พอใช้งาน แก้วเลยเลือกที่จะหยิบ Game ใหม่ๆ ที่มี Graphic สูงๆ และ กินทรัพยากรเครื่องเยอะมาลองกัน ซึ่งก็คือ MIR4 นั่นเอง

สามารถที่จะเปิด Setting ของ Graphic และสิ่งต่างๆ ได้ในระดับสูงสุด แต่ว่า มันก็จริงอย่างที่หลายๆ คนคิดเอาไว้ Frame Rate 60 fps ที่เราเปิด มันไม่ได้นิ่งอยู่ที่ 60fps ได้ตลอด เหมือน Snapdragon 888 จริงๆ แต่เล่นไปนานๆ Dimensity 1200 ก็ไม่ร้อนเท่า Snapdragon 888 เหมือนกัน แลกกันคนละหมัดตรงนี้

Signal & Internet Speed

มีหลายคนกังวลเรื่องการรับ สัญญาณ Internet ไม่ว่าจะเป็น Wifi หรือ 5G ของ CPU Dimensity 1200 ตัวนี้ บอกเลยว่าสบายหายห่วงครับ Latency ทั้ง Download และ Upload น้อยมากๆ ใช้งานได้จริง

CAMERA SPECIFICATION
  • กล้องหลัก 50MP(Sony IMX766V), f/1.75 แอบอยากให้ได้ตัวเดิมที่ f/1.5

  • ระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 3.0 VIS แบบ 5 แกน

  • Super-Wide Angle 12MP มุมมองกว้าง 120 องศา, f/2.2

  • Medium Telephoto (50 mm) 13MP, f/1.98, Optical Zoom 2X ตัวเดียวกับใน vivo X60T Pro Plus การันตรีว่าเทพกว่าเดิมมาก

เอาล่ะไม่เสียเวลามาดูภาพถ่ายจาก vivo X70 Pro 5G กันดีกว่าครับ

กล้องตัวแรกที่เราจะมาดูกัน ก็คือกล้องหลักตัวใหม่ ความละเอียด 50MP พร้อม Sensor IMX766V โดยเลนส์ตัวนี้เนี่ยจะมีค่า f/stop ที่สูงขึ้นจากตัว vivo X70 Pro 5G เล็กน้อย แต่ Quality ของไฟล์นี่แบบ อื้อหืออออ Dynamic Range ดีมากๆ และที่น่าสนใจก็คือ CPU Dimensity 1200 เนี่ย ประมวลผลไฟล์ภาพ Hi-Res ได้เร็วทีเดียว ไม่มี Shutter Lag เลย

อยากให้ลองดู 2 ส่วนในภาพนี้ อย่างแรกคือเรื่อง Quality ของ Pixel Binning เรามองรายละเอียดในดวงตา ยังเห็นทั้งเงาสะท้อน ตัวคอนแทคเลนส์ และขนตาได้อย่างชัดเจน f/stop สูงขึ้นก็จริง แต่ถ้าดูที่ส่วนของ Background จะเห็นว่า มันจะเริ่มละลายแล้ว โดยที่ไม่ต้องใช้ Software Blur เข้ามาช่วย

กล้อง Super Wide Angle 12MP พร้อม Motor Autofocus กว้างสุดถึง 120 ํ กันทีเดียว และ Dynamic Range ก็เท่ากล้องหลักเลย สีจะออกฟ้ากว่า กล้องหลักเล็กน้อย สิ่งที่รู้สึกได้นิดหน่อยกับ Ultra Wide Angle ตัวนี้คือ มี Distortion บริเวณกลางภาพนิดหน่อย

แต่ถ่ายย้อนแสงแบบจะๆ ได้เลยไม่ต้องกลัว เพราะว่ามี T*Coating จากทาง ZEISS มาให้ ช่วยลดแสงสะท้อนให้ภาพทีเคลียใสกว่าเดิม พร้อมทำงานร่วมกับ HDR ที่ vivo เก่งอยู่แล้ว ออกมาสวยเลยครับ

ความกว้าง 120 ํ องศา ที่กว้างระดับถ่ายตึก ทั้งตึกเข้ามาอยู่ใน Frame ได้ และคมยันขอบภาพ

หรือจะเอามาถ่ายภาพ Portrait ก็ได้ เพราะว่า Ultra Wide Angle ตัวนี้เปิด Beauty ได้นะ

แน่นอนว่า vivo จัดเต็มใส่ Motors Autofocus มาให้ในตัว Super Wide angle อยู่แล้ว ทำให้ถ่ายภาพ Macro นั้นจะได้รายละเอียดที่ดี คุณภาพสูง และไฟล์ที่ใหญ่ เอาไปใช้งานต่อได้จริง

การถ่ายภาพ Portrait with ZEISS Bokeh Signature

ใน vivo X70 Pro 5G อย่างที่หลายๆ คนได้ติดตามกันมาตั้งแต่ช่วงเปิดตัว vivo X70 Series นั้นจะได้ Bokeh ใหม่จากเลนส์ระดับตำนานสาย Portrait จากทาง ZEISS มาให้เราได้ใช้งานกัน ถึง 4 ตัว

  • Biotar 75mm | f/1.5

  • Planar 80mm | f/2.8

  • Sonnar 180mm | f/2.8

  • Distagon 28mm | f/2.0

ก่อนจะไปดูภาพ Portrait ที่ถ่ายได้จาก กล้องแต่ละตัว และ Bokeh แต่ละแบบ แอดมินแก้วขอแชร์เทคนิคการใช้ Bokeh ให้ทุกคนครับ จากที่ลอง Bokeh แต่ละตัวมาน่าจะเกิน 300 รูปได้ แอดมินจับทางได้ว่า

เวลาใช้ Bokeh แต่ละตัว ถ้าเราใช้ระยะเลนส์ กับปรับ Software จำลอง f/stop ให้ตรงกับ "เลนส์ตัวจริง" จะให้ผลลัพท์ที่ดูใกล้เคียงกับเลนส์ตัวจริงมากทีเดียว
Sonnar Bokeh | ละลายจนเนียน เหมาะกับ Close - up

เรามาเริ่มกันที่ Shot แรกเลยครับ ภาพนี้แก้วใช้ Bokeh แบบ Sonnar ถ่ายด้วยเลนส์ 50mm 2x เอกลักษณ์ของ Bokeh นี้ คือจะละลายฉากหลังแบบหลุดไปเลย จะ Smooth เป็นสีน้ำ เพราะว่ามาจากเลนส์ระยะ 180mm เป็น Telephoto ระยะไกลมากๆ

สิ่งที่อยากให้สังเกตเพิ่มเติมคือ Dynamic Range ใน Mode Portrait อย่างโหด ขนาดว่าเราเบลอฉากหลังไปแล้ว แต่ Software ยังดึงรายละเอียดในส่วนของฟ้ากลับมาก่อน แล้วค่อยเบลอฉากหลังออกไป

เวลาเราถ่ายด้วยระยะที่ Close up เพียงพอ และฉากหลังมี แสงไฟ หรืออะไรที่ระยิบระยับ Bokeh ของ Sonnar จะเป็นวงกลมดวงใหญ่ๆ แต่จะนวลๆ ไม่เห็น Shape ของ Bokeh ได้ชัดเท่าไหร่ เป็นเอกลักษณ์ของเขาครับ

Planar Bokeh โบเก้ขึ้นแบบกรุบกริบ และ หมุนวน นิดๆ

Planar เนี่ย ใครที่เคยได้ใช้เลนส์ตัวจริงๆ จะรู้สึกว่า มันมีความคล้ายกับ Biotar อยู่พอสมควร แต่ว่า Planar จะมี Shape ของ Bokeh ที่ค่อนข้างเป็นทรงวงรีมากกว่า แต่การบิดตัวหมุนวน ของ Bokeh จะไม่มากเท่า จำนวนเม็ด Bokeh ก็จะไม่ได้เยอะเท่า เพราะกับการถ่ายภาพครึ่งตัว หรือ 70% of body

เหมือนเอาเลนส์ที่มีระยะ Focal Length 80mm มาใช้จริงๆ จังๆ เลย ดีงามมาก

ถ้าหาจุดที่ Background มีหลอดไฟ หรือแสงสะท้อนเยอะๆ ได้ โบเก้ ก็จะขึ้นเยอะเลยครับ

Distagon Bokeh | โบเก้ เล็กๆ แต่ระยิบระยับ

เลนส์ Distagon เป็นเลนส์มุมกว้าง โดยมี Focal Length อยู่ที่ 28mm ซึ่งมี f/stop ค่อนข้างต่ำที่ 2.0 ลักษณะของ Bokeh จะเป็นแบบ 6 เหลี่ยมที่ดวงของ Bokeh จะเป็นจุดเล็กๆ โดยจะขึ้นมาในส่วนที่ เป็นแสงไฟ หรือแสงสะท้อน หา Foreground สวยๆ มาวางก็ช่วยสร้างมิติให้ภาพดูดีขึ้นได้

ด้วยความที่ขนาดของ Bokeh มันเล็กๆ และจะขึ้นมาเฉพาะใน Background ที่มีระยะไกลๆ เท่านั้น รอบๆ ตัวแบบจะเบลอปกติ ทำให้ Bokeh นี้ค่อนข้างเหมาะกับการถ่ายภาพ แบบ Full Body หรือ 70% Body ด้วยกล้องหลัก

Biotar Bokeh | โบเก้หมุนวนสุดรัก ของแอดมิน

หลังจากได้ลอง Bokeh แบบ Biotar ไปใน vivo X60 Series บอกเลยว่า ตกหลุมรัก โบเก้นี้มากๆ สามารถใช้ได้กับการถ่ายแบบ เต็มตัว ครึ่งตัว คือใช้ได้หมดเลย ถ้าเราใช้เลนส์ 2x หรือ 50mm กล้องก็จะขยาย Bokeh ให้ใหญ่

แต่พอเราถอยมาเป็น Medium Shot ด้วยกล้องหลัก 50MP ตัว Software ก็ฉลาดพอจะที่ ลดขนาด Bokeh ลงไปให้ภาพที่ได้ มันเป็นธรรมชาติ และสวยงามมากที่สุด เป็น Bokeh ที่ประยุกต์ไปใช้งานได้หลากหลาย และมีเอกลักษณ์มากที่สุดตัวหนึ่งของ ZEISS เลยครับ

Skintone & Image Quality

อันนี้เป็นจุดที่มีความเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรจาก vivo X60 Pro 5G ลักษณ์ของ White Balance และ Skintone ใน vivo X70 pro 5G จะมีการ Balance สี Skintone ไปตามสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงไป จะไม่ได้พยายามทำให้ผิว ชมพู หรือสดใส เหมือนตอน vivo X60 Pro 5G ทำให้ภาพที่ออกมาสมจริงก็เดิม

มีเรื่องที่ต้องบอกทุกคนไว้ก่อนก็คือ ความเร็วในการประมวลผล Bokeh นั้น ช้าลงกว่าตอน vivo X60 Pro 5G เล็กน้อย อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นผลมาจาก Dimensity 1200 หรือเปล่า ? เพราะตอนถ่ายภาพ 50MP ยังทำได้รวดเร็วอยู่เลย

เวลาตัวแบบ โดยแสงแดดสีส้มมากๆ ในตอนเย็น ตัว Beauty Software ไม่ได้พยายามจะปรับให้ขาว หรือ อมชมพูจนเกินไป ทำเพียงแค่ Balance แสงในภาพ ในส่วนที่เป็นเงา ยังรักษารายละเอียดเอาไว้ได้ และ ไม่ปล่อยให้มี Highlight ในภาพเลย DR กว้างมาก

พวก Bokeh Preset จาก vivo X60 Pro 5G ก็ยังมีมาให้ในรุ่นนี้ อย่างภาพนี้ก็จะเป็น French Impression ฟุ้งๆ ให้ฟีลลิ่งยุโรป ชวนฝัน หน่อยๆ

ตัว Vintage Film ที่ให้ลุคแบบ ฟิล์มโบราณก็มีมาให้ ครับเท่ดีอันนี้ หา BG เก่าๆ หรือ ให้ลุค Vintage หน่อย จะแจ่มมากเลย

กล้องหน้าความละเอียด 32MP ตัดขอบสวยเนี๊ยบ

มาดูภาพจากกล้องหน้าความละเอียด 32MP กันบ้างครับ อย่างแรกที่แก้วสังเกตได้จากความเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือ เรื่องของการตัดขอบละลายฉากหลัง เพราะว่าตอนใช้ vivo X60 Pro 5G หรือแม้กระทั่ง vivo X60 pro plus นั้น ยังมีอาการตัดขอบหลุดให้เห็นได้บ่อยๆ แต่กับ vivo X70 Pro 5G นั้น ไม่เป็นเลย

กล้องหน้าเนี่ย Bokeh ยังขึ้นเป็นเม็ดกลมๆ ได้ขนาดนี้ มาดีทั้งกล้องหน้า กล้องหลังจริงๆ

Beauty Mode ในกล้องหน้ากล้องหลัง ของ vivo X70 Pro 5G สามารถที่จะปรับให้แยกเพศได้ เพื่อให้ สไตล์ของภาพออกมาดูเหมาะสม สังเกตได้ว่า ภาพ Selfie ของแอดมินเนี่ย จะเห็น Texture ของผิว ชัดเจนกว่าภาพนางแบบก่อนหน้านี้ มากพอสมควร

ระหว่างรอแดดร่ม ลมตก ก่อนฟ้าจะมืด แอดมินก็มาลองถ่ายภาพด้วย Periscope 5x กันบ้างครับ เท่าที่ดูจาก Character ภาพ และคุณภาพของไฟล์ 5x ตัวนี้ ยกมาจาก vivo X60 Pro Plus แน่ๆ Quality ใกล้กันมาก

ความละเอียด 8MP ของกล้อง Periscope ตัวนี้ ก็คือ เพียงพอเลย เพราะรายละเอียดในภาพดีมากๆ Dynamic Range นี่น้อยกว่ากล้องหลัก แค่นิดเดียวเท่านั้นจริงๆ ภาพเนี้ยถ้าดู Dynamic Range จะเห็นได้ชัดเจนเลย แอดมิน จะแตะวัดแสงที่ตัวตึกที่อยู่ด้านหลังนั้น กล้องเฉลี่ยแสงให้ตัวโคมไฟที่เป็นเงามืดด้านล่างนั้น ยังได้รายละเอียดที่ดีอยู่

เคยเห็นกล้อง Periscope ที่เก็บรายละเอียดของ Texture ก้อนเมฆในช่วงเย็นๆ แบบนี้บ้างไหมครับ ? ในเรื่อง Dynamic Range ของภาพบางส่วนอาจจะหายไปบ้าง แต่รายละเอียดของก้อนเมฆและสีสันมันดีมากๆ

ใครที่ชอบถ่ายตึก หรือถ่ายงาน สถาปัตยกรรม ในใจกลางเมืองเนี่ย Periscope ใน vivo X70 Pro 5G คือยอดเยี่ยม สู้กับ Periscope จากแบรนด์อื่นได้แน่นอน การจัดการ Noise นี่คือ ปรบมือให้เลยดีจริงๆ

สายถ่ายภาพ Minimal หรือเน้นองค์ประกอบศิลป์ ถูกใจสิ่งนี้แน่นอน

กำลัง Zoom สูงสุดของ Periscope ตัวนี้คือ 60x Digital Zoom ครับ ยังเห็น Shape ตึกได้โอเคอยู่

การถ่าย Video ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมมาก

เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถูกอัพเกรดขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจมากๆ และมี ฟีเจอร์ที่ซ่อนๆ เอาไว้แบบที่คนไม่รู้มากมายเลย ในโหมดของการถ่าย Video โดย Highlight สำคัญๆ มีดังนี้

  • Gimbal Stabilization 3.0 ของเดิมว่านิ่งแล้ว ตัวนี้นิ่งกว่า

  • Linear Exposure Adjustment ปรับสภาพแสงวีดีโอแบบเนียนตา

  • Super Night Video ถ่ายวีดีโอในที่แสงน้อย

  • Pro Cinematic Mode ถ่ายวีดีโอในสัดส่วนแบบภาพยนตร์

  • Resolution สูงสุด 4K 30fps | กล้องหน้า 1080p 30fps เบลอฉากหลังได้

High Video Bitrate นี่น่าจะเป็นครั้งแรกๆ ที่แก้วได้เห็น Smartphone ที่ปรับ Bitrate ตอนถ่าย Video ได้ ซึ่งความสำคัญของ Bitrate มันพอๆ กับ Resolution 4K 8K นั่นแหละ ถ้า Resolution ใหญ่ แต่ Bitrate ต่ำ มันก็จะเสียรายละเอียดไป ได้แค่ความใหญ่เท่านั้น โดย vivo X70 Pro 5G สามารถปรับได้สูงสุดที่ 64mbps ใน Mode Pro Video

Night Photography การถ่ายภาพเวลากลางคืน

เริ่มจะหัวค่ำแล้ว เรากลับมาถ่าย Night Portrait กันต่อ รอบนี้มาพร้อมกับ Portrait Style ตัวใหม่ ที่มีชื่อว่า Party จะเป็นการยิงแสงแฟลช เพื่อหยุดภาพ แล้วให้เราเหวี่ยงกล้องไปมา เพื่อสร้างเส้นแสง Light Graffiti เจ๋งมาก ชอบๆ

จับ Biotar มาลองถ่ายในที่แสงน้อยๆ ดูบ้าง Noise Reduction เนี่ยทำดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่เลนส์หลักมีการอัพเกรด Gimbal Stabilization 3.0 มาใหม่ ช่วยให้กล้องสามารถที่จะลาก Shutter Speed ให้นานขึ้นเพื่อรับแสง แทนการดัน ISO เพียงอย่างเดียว ไฟล์ภาพเลยใสแบบนี้

ตอนถ่ายรูปนี้ประมาณ 18.40 ได้แล้ว ก่อนฟ้าจะมืดสนิท ออกมารับแสงสุดท้ายกันหน่อย เลนส์ Telephoto 2x ในตัวนี้ ที่มี f/stop ต่ำลง เหลือเพียง 1.9 เนี่ย มาส่งผลหนักๆ เอาในเวลานี้แหละครับ เพราะยังช่วยให้เราถ่ายภาพได้ไฟล์ที่ยังใส Noise ไม่ค่อยมีได้อยู่

ภาพนี้บอกก่อนเลยนะครับ อย่าคิดว่ามันเป็น Night Mode ภาพนี้คือใช้กล้องหลัก ถ่ายด้วย Mode Hi-Res 50MP ไฟล์ยังใสปิ๊งอยู่เลย ต้องบอกว่ากล้องในโหมด Auto ฉลาดขึ้นมาก เลือกที่จะใช ISO ที่ 400 แต่ลด Shutter Speed ลงมาเหลือ 1/8 เพื่อรับแสง และคงคุณภาพของไฟล์เอาไว้

ภาพนี้แก้วรอให้ฟ้ามืด เพื่อที่จะมาลองคุณภาพของไฟล์ RAW กัน โดยแก้วตั้งค่าตอนถ่ายไว้ที่ ISO 400 | Shutter Speed 1/30 ใน Mode Pro แล้วลองดูคุณภาพของไฟล์ที่ได้ครับ

Night Mode ของ vivo X70 Pro 5G นั้นสามารถใช้ได้กับกล้องทุกตัว ย้ำนะครับว่าทุกตัว ตั้งแต่ Ultra Wide Angle จนยันกล้อง Periscope ก็ใช้ได้ แล้วคุณภาพของ Night Mode คือดีขึ้นมากๆ มันมีความใกล้เคียงกับการใช้ Mode Pro ปรับตั้งค่าเองแล้ว

คุณภาพไฟล์ภาพเวลาถ่ายในช่วงแสงน้อย กับตอนสภาพแสงปกติ นี่ใกล้กันมาก

Night Color Filter ก็ยังจัดมาให้เต็มๆ เหมือนเดิม พร้อมสีใหม่ Dreamy Spotlight ฟุ้งๆ ชวนฝัน

จุดที่น่าเสียดาย คือการที่ Mode Long Exposure หายไปไหนไม่รู้ เหมือนจะเอาไปใส่ตัวบน Pro Plus หรือเปล่า อันนี้แอดมินก็ไม่แน่ใจ มันเกือบจะเป็นตัวที่ครบแล้วจริงๆ วอนขอให้ vivo อัพโหมดนี้เข้ามาให้นะครับ

สิ่งที่ได้มาแทนคือการถ่ายภาพด้วย Mode Pro ในกล้องหลังได้ทุกกล้อง ได้ยัน Periscope นะครับ

แบตเตอรี่ 4,450 mAh แอดมินสามารถถ่ายรูป ทำรีวิวต่อเนื่องได้ตั้งแต่เวลา บ่าย 2 ได้ กดถ่ายแบบ Non - stop เลย กลับถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ แบตยังเหลือเกือบครึ่ง เสียบชาร์จไม่ถึง ชั่วโมงก็เต็มแล้วครับ เพราะว่ามี vivoFlashCharge 44W เต็มเร็วกว่า vivo X60 Pro Plus ของแอดมินอีกนะ

Overview & Opinion

การกลับมาในครั้งนี้ของ vivo x70 Series เป็นการทำให้สิ่งที่ vivo X60 Series เริ่มต้นเอาไว้ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น vivo X70 Pro 5G มันยกระดับการถ่ายภาพไปอีกขั้น ทั้งในแง่ของคุณภาพไฟล์ ในแต่ละกล้อง ที่มีความใกล้เคียงกัน ทั้ง Pixel Quality ไปจนถึง Dynamic Range

การหยิบ Periscope กลับมาใส่ในรุ่น Pro เป็นสิ่งที่แก้วขอบคุณ vivo มากๆ เพราะว่า ในเมื่อเป็น version ที่วางขาย Global แล้ว อยากให้มันได้กล้องมาครบระยะ จริงๆ โดยที่ไม่ต้องไปพึ่ง Digital Zoom แถม Image Quality ของทุกกล้อง จากใจคนที่ใช้ รุ่น Pro Plus มาก่อน เหมือนกันมากครับ ต่างแค่ Pixel เท่านั้นเอง

CPU Dimensity 1200 นั้น ถามว่ามีผลกับเรื่องของการถ่ายภาพจนเป็นปัญหาแบบที่ทุกคนกลัวกันไหม ? อันนี้แอดมินแก้ว ยืนยันให้เลยว่า ไม่มีปัญหาครับ ไฟล์ภาพดี ประมวลผลเร็วโอเค จะมีใช้เวลานานหน่อยก็พวก การถ่ายภาพ Portrait Bokeh ในแบบต่างๆ แต่ไม่ใช่ว่า มันมี Shutter Lag นะ เราสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องไปได้เลย แต่ต้องรอให้ Software คำนวนสร้าง Bokeh ในแบบ Background Process แทน

Bokeh ใหม่ๆ จากทาง ZEISS นั้น ต้องบอกว่า ทำมาได้ดี สวยงามและแตกต่าง แต่ผู้ใช้งานต้องพยายามทำความเข้าใจ เอกลักษณ์ของแต่ละตัว และปรับใช้ให้ถูกต้องตามระยะของเลนส์ และสถานการณ์ ไม่ต้องปรับค่า f/stop ให้ต่ำมากเกินไป ตามที่แอดมินได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว


นอกนั้น ก็ยังมีจุดพิจารณาเล็กๆ หลายจุดที่อาจจะรู้สึกว่า อยากให้ใส่มาให้ครบๆ ได้แล้ว เช่น Dual Speaker และ Wireless Charge ที่ทาง vivo ยังเก็บไว้ให้รุ่น Pro Plus เท่านั้น หวังว่า รุ่นหน้าเราจะได้พบกันนะ


กับราคาค่าตัว 27,999 นี่น่าจะเป็น Smartphone ที่ถ่ายภาพ Portrait ได้ยอดเยี่ยมที่ดีที่สุดในปีนี้แล้ว ที่วางจำหน่าย Official ในไทย และรองรับการใช้งานทั่วไป แบบ Daily Use ได้สบายๆ เล่นเกมได้โอเค อาจจะไม่ถูกใจขา Snapdragon แต่กับแอดมิน มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย ใครสนใจ vivo X70 Series ก็ไปจับจองกันแล้ววันนี้ ที่ช่องทางต่างๆ Ecommerce และ vivo brand shop ครับ

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

IG : kaew.ravie

0 ความคิดเห็น

留言


bottom of page